ข่าวสารกลุ่มประเทศอาเซียน
รัฐบาลฟิลิปปินส์หนุนเศรษฐกิจโต ด้วยการเพิ่มใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานให้มากขึ้น
9 มิถุนายน พ.ศ. 2557รัฐบาลฟิลิปปินส์กำลังวางเดิมพันสำหรับการทำให้เศรษฐกิจขยายตัวอย่างยั่งยืน ด้วยการเพิ่มใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคพื้นฐานให้มากขึ้น หลังจากในไตรมาสแรกของปีนี้ อัตราการเติบโตของประเทศลดลงต่ำกว่าที่คาดไว้ เพราะความเสียหายที่ได้รับจากภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นเป็นระลอกเมื่อปลายปีที่แล้ว บั่นทอนผลผลิตท้องถิ่น
กระทรวงงบประมาณ และการบริหารจัดการฟิลิปปินส์ ได้วางแผนงาน ที่มีเป้าหมายเพื่อส่งเสริมการใช้จ่ายของรัฐบาล ในการก่อสร้างสาธารณะด้านต่างๆ ทั้ง ถนน สนามบิน ชลประทาน และการขนส่ง ให้เพิ่มขึ้นมาอยู่ในระดับ 5% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ ให้ได้ก่อนที่จะประธานาธิบดีเบนิโญ อาคิโน ผู้นำคนปัจจุบัน จะพ้นวาระดำรงตำแหน่งในปี 2559 จากเดิมที่กำหนดไว้ราว 1.8%
ในปีนี้ ฟิลิปปินส์ ตั้งเป้าที่จะใช้จ่ายราว 399,430 ล้านเปโซ ในงานสาธารณะต่างๆ หรือคิดเป็นสัดส่วนราว 3% ของจีดีพี ซึ่งคาดว่าเม็ดเงินในส่วนนี้จะเพิ่มขึ้นไปถึง 826,000 ล้านเปโซ ในอีก 2 ปีข้างหน้า
เมื่อเร็วๆ นี้ ประธานาธิบดีอาคิโน และคณะรัฐมนตรี เพิ่งอนุมัติโครงการลงทุน 9 โครงการ มูลค่าราว 1,400 ล้านดอลลาร์ ซึ่งโครงการใหญ่สุดในจำนวน 9 โครงการนี้ เป็นโครงการสร้างเขื่อน และท่อส่งน้ำมูลค่า 425 ล้านดอลลาร์ สำหรับการจัดหาน้ำให้กับกรุงมะนิลาจำนวน 600 ล้านลิตรต่อวัน ภายในปี 2563
โครงการใหญ่อีกโครงการคือ การให้สัมปทาน 10 ปี มูลค่า 325 ล้านดอลลาร์ สำหรับการดำเนินงาน และซ่อมบำรุง ระบบรถไฟไฟฟ้าในเมืองหลวงของประเทศ
อย่างไรก็ดี บรรดาเจ้าหน้าที่กำหนดนโยบาย รวมถึง รัฐมนตรีงบประมาณ "นายฟลอเรนซิโอ อาบัด" ยอมรับว่า การเพิ่มจำนวนการใช้จ่ายดังกล่าว อาจจะไม่มากพอสำหรับการพัฒนาประเทศ ที่ตกอยู่ในสภาพล้าหลังประเทศเพื่อนบ้านในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มานานหลายปีแล้ว
ข้อมูลจากดัชนีผลประกอบการโลจิสติกส์ ปี 2557 ของธนาคารโลก ซึ่งเป็นเครื่องมือเปรียบเทียบโลจิสติกส์การค้าใน 160 ประเทศ แสดงให้เห็นว่า โครงสร้างพื้นฐานของฟิลิปปินส์ ย่ำแย่สุดในกลุ่ม 6 ประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่อยู่ในดัชนีนี้ รวมถึง สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย เวียดนาม และอินโดนีเซีย
ส่วนภาพรวมนั้น ฟิลิปปินส์ติดอยู่ในอันดับ 75 ของดัชนี ได้ 2.6 คะแนน จากคะแนนเต็ม 5
เจ้าหน้าที่กำหนดนโยบายของฟิลิปปินส์ มีความหวังว่า ภาคเอกชนจะสามารถช่วยปิดช่องว่างเงินลงทุนที่ยังขาดหายไป ผ่านการจับมือเป็นพันธมิตรระหว่างภาครัฐ กับเอกชน หรือ พีพีพี รวมถึง เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมต่างๆ ที่รัฐบาลทำไม่ได้เพราะกฎหมายห้ามไว้
นักวิเคราะห์จากบริษัทวิจัยฟอร์แคสต์ ของสิงคโปร์ "นายเบอร์นาร์ด อ่อ" มองว่า การอนุมัติโครงการใหญ่ 9 โครงการของรัฐบาล ที่เป็นการทำพีพีพีนั้น จะช่วยให้เรื่องต่างๆ เคลื่อนตัวไปได้เร็วขึ้น ทั้งกระบวนการอนุมัติ และการเปิดตัวโครงการที่เป็นไปอย่างรวดเร็ว จะช่วยสร้างความมั่นใจให้กับนักลงทุนทั้งในประเทศ และต่างประเทศ มากขึ้น
อย่างไรก็ดี นายอ่อ เตือนว่า ปัจจัยอื่นๆ ก็มีความสำคัญในการดึงดูดนักลงทุนเช่นกัน อย่าง เงินเฟ้อที่มีเสถียรภาพ อัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำ และเสถียรภาพทางการเมือง
หมวดของข่าว : ลงทุนต่างประเทศ , ลงทุนอาเซียน , ข้อมูลการลงทุน
-
Singapore's economy is expected to grow by 3.8 per cent this year
13 มิถุนายน พ.ศ. 2557