ข่าวสารกลุ่มประเทศอาเซียน
บริษัทชั้นนำหลั่งไหลเข้าอาเซียน
2 กันยายน พ.ศ. 2557บริษัทใหญ่ต่างย้ายฐานปฏิบัติการมายังฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เพื่อจับแรงงานรุ่นใหม่ที่มีการศึกษาสูง
บริษัทจัดหาแรงงานชั้นนำระดับโลกรายงานว่า บริษัทใหญ่ต่างย้ายฐานปฏิบัติการมายังฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เพื่อจับแรงงานรุ่นใหม่ที่มีการศึกษาสูง หลังจากค่าจ้างแรงงานในจีนสูงขึ้น
รายงานชื่อ "เดอะ เน็กซ์ บิ๊ก ธิง อิน เซาท์อีสต์ เอเชีย" ของบริษัทแมนเพาเวอร์กรุ๊ป ระบุว่าบริษัทใหญ่ระดับโลก รวมทั้งที่ติด 500 อันดับของนิตยสารฟอร์จูน เริ่มย้ายฐานปฏิบัติการมายังมาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ จากที่เคยหลั่งไหลเข้าไปจีน
ในอดีต บริษัทต่างชาตินิยมเข้าไปตั้งฐานในจีนที่มีแรงงานค่าแรงถูก แต่สามประเทศอาเซียนดังกล่าวมีโครงสร้างประชากรที่เหมาะสมและดึงดูดใจนักลงทุน จากฐานประชากรขนาดใหญ่ ผลิตภาพสูง และจะเป็นตลาดที่มีศักยภาพเนื่องจากมีกำลังแรงงานที่มีการศึกษา
รายงานระบุว่า เมื่อผสมผสานปัจจัยเหล่านี้กับคาดการณ์กำลังแรงงานหน้าใหม่ที่จะไหลเข้าสู่ตลาด และชนชั้นกลางที่กำลังเติบโต นี่เป็นเหตุผลสำคัญว่าทำไมบริษัทที่มองการณ์ไกลจึงพิจารณาเรื่องการลงทุนในภูมิภาคอาเซียน อีกทั้งค่าจ้างโดยเฉลี่ยในฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซียยังค่อนข้างต่ำ ขณะที่ต้นทุนแรงงานในประเทศอาเซียนอื่นๆ รวมทั้งจีน กำลังเพิ่มสูงขึ้นถึงจุดที่ต้องย้ายฐาน เพราะไม่มีแรงจูงใจด้านการเงินอีกต่อไป
ขณะเดียวกัน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซียยังไม่มีประสบการณ์การผลิต เหมือนกับที่จีนได้พัฒนามาโดยตลอด ทำให้บริษัททั้งหลายต้องย้ายแผนกสำคัญมายังสามประเทศนี้ คาดว่าการปฏิบัติการของบริษัทต่าง ๆ จะมีประสิทธิภาพอย่างรวดเร็ว ทั้งยังช่วยส่งเสริมประชากรวัยเด็ก ที่จะกลายเป็นขุมพลังสำคัญในอนาคต
รายงานนี้ยังกล่าวถึงโครงสร้างประชากรว่า จีนมีประชากรเด็กอายุระหว่าง 0-14 ปี เพียง 19.5% ขณะที่มาเลเซียมีประชากรเด็ก 29.1% อินโดนีเซีย 26.6% และฟิลิปปินส์ 34.3% ชี้ให้เห็นว่าสามประเทศอาเซียนเหล่านี้มีการปันผลทางประชากร อันหมายถึง การได้ประโยชน์ทางเศรษฐกิจจากการเปลี่ยนแปลงทางประชากร ขณะที่ในจีนนั้นเป็นสังคมคนชรา ซึ่งส่งผลกระทบชัดเจนว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ มาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ จะมีคนเก่งมากกว่าจีน
นอกจากนี้ธุรกิจต่าง ๆ ยังจำเป็นต้องตั้งสาขาในสามประเทศที่เติบโตอย่างรวดเร็วนี้ เพื่อแสวงหาความได้เปรียบจากการที่ชนชั้นกลางเพิ่มจำนวนขึ้น โดยเฉพาะรถจักรยานยนต์และสินค้าอุปโภคบริโภค ที่คาดว่าจะมียอดขายเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วท่ามกลางเศรษฐกิจที่ขยายตัว
ในตอนท้ายของรายงานระบุว่า การย้ายฐานมายังฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เป็นสิ่งที่ธุรกิจทั้งหลายไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เพื่อการเจริญเติบโตมากขึ้น
นายแดนนี หยวน หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการหรือซีโอโอภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกและตะวันออกกลางของแมนเพาเวอร์กรุ๊ป กล่าวว่า แนวโน้มประชากรที่ยั่งยืนในมาเลเซีย อินโดนีเซีย และฟิลิปปินส์ จะทำให้บริษัทต่าง ๆ ลงทุนในประเทศเหล่านี้ เพื่อความสำเร็จของบริษัท
ในกรณีฟิลิปปินส์ แมนเพาเวอร์กรุ๊ปมองว่า นักลงทุนนิยมย้ายมาตั้งบริษัทที่นี่เพราะมีแรงดึงดูดหลายด้าน เช่น มาตรการจูงใจด้านภาษีอากร กระบวนการส่งออกและนำเข้าที่ไม่ยุ่งยาก การเป็นทำเลยุทธศาสตร์ใกล้มหาสมุทรแปซิฟิก และประชากรจำนวนมากที่พูดภาษาอังกฤษได้
หมวดของข่าว : ลงทุนต่างประเทศ , ลงทุนอาเซียน , ข้อมูลการลงทุน
-
ต่างชาติแห่ลงทุนพม่ากว่า $5,000 ล้าน ภาคโทรคมนาคมนำโด่ง
18 กันยายน พ.ศ. 2557 -
ซัมซุงขยายการลงทุนในเวียดนาม
18 กันยายน พ.ศ. 2557 -
ผู้นำอินเดียเยือนเวียดนาม สานความร่วมมือ ตั้งเป้าการค้า $15,000 ล้าน
18 กันยายน พ.ศ. 2557