ข่าวสารกลุ่มประเทศอาเซียน

เอ็กโก กรุ๊ป ขยายฐานการลงทุนใน AEC ต่อเนื่อง ประกาศกำไรจากการดำเนินงาน 9 เดือนแรก กว่า 6.5 พันล้านบาท

2 ธันวาคม พ.ศ. 2557

 

 

 

 

สำนักข่าวหุ้นอินไซด์( 28 พฤศจิกายน   2557)------นายสหัส ประทักษ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ เอ็กโก กรุ๊ป เปิดเผยถึงความก้าวหน้าของการดำเนินงานในช่วงไตรมาส 3 จนถึงปัจจุบันว่า “เอ็กโก กรุ๊ป ได้ขยายการลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าใหม่ในกลุ่มประเทศอาเซียนอย่างต่อเนื่อง ทั้งในฟิลิปปินส์และอินโดนีเซีย ซึ่งบริษัทมีฐานทางธุรกิจอยู่แล้ว ด้วยการซื้อสินทรัพย์ที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว เพื่อช่วยให้บริษัทรับรู้รายได้ทันที สำหรับผลการดำเนินงาน  9 เดือนแรก เป็นไปตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยบริษัทมีกำไรก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) และภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี 6,585 ล้านบาท”

 

ผลการดำเนินงานด้านธุรกิจที่โดดเด่นตั้งแต่ต้นไตรมาส 3 จนถึงปัจจุบัน เอ็กโก กรุ๊ปได้ซื้อหุ้นโดยทางอ้อมของบริษัท มาซินลอค พาวเวอร์ พาร์ทเนอร์ จำกัด (เอ็มพีพีซีแอล) ซึ่งเป็นเจ้าของโรงไฟฟ้าถ่านหิน “มาซินลอค” ขนาดกำลังการผลิต 630 เมกะวัตต์ บนเกาะลูซอน ประเทศฟิลิปปินส์ ในสัดส่วนร้อยละ 40.95 จากบริษัท เออีเอส ฟิล อินเวสเม้นท์ จำกัด นอกจากนั้น บริษัทยังได้ลงทุนซื้อหุ้นทางอ้อมในสัดส่วนร้อยละ 20 ในบริษัท สตาร์     เอนเนอร์ยี จีโอเทอร์มอล จำกัด (เอสอีจี) ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นในโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนใต้พิภพ ขนาดกำลังการผลิต 227 เมกะวัตต์ ประเทศอินโดนีเซีย

 

“การลงทุนในโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่ง สอดคล้องกับกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ ที่มุ่งแสวงหาโอกาสการลงทุนในภูมิภาคอาเซียนและเอเชียแปซิฟิก นอกจากการรับรู้รายได้จากโรงไฟฟ้าที่เดินเครื่องอยู่แล้ว พื้นที่ของโรงไฟฟ้าทั้ง 2 แห่งนี้ยังมีศักยภาพที่จะขยายหรือเพิ่มหน่วยผลิตในอนาคต ซึ่งจะสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัทฯ ได้ในระยะยาวอีกด้วย”

 

ด้านโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนา มี 8 โครงการ แบ่งเป็นโครงการในประเทศ 6 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้า “พลังงานขยะชุมชนหาดใหญ่” จังหวัดสงขลา ซึ่งดำเนินการก่อสร้างใกล้แล้วเสร็จและได้ผ่านการเดินเครื่องกำเนิดไฟฟ้าขนานกับระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) แล้ว โครงการโรงไฟฟ้า    “ขนอมหน่วยที่ 4” จังหวัดนครศรีธรรมราช  โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม “ชัยภูมิ วินด์ฟาร์ม” จังหวัดชัยภูมิ  และโครงการผู้ผลิตไฟฟ้ารายเล็ก (SPP) 3 โครงการ ได้แก่ โครงการ “ทีพี โคเจน” และ “เอสเค โคเจน” จังหวัดราชบุรี และโครงการ “ทีเจ โคเจน” จังหวัดปทุมธานี  โครงการในต่างประเทศ 2 โครงการ ได้แก่ โครงการโรงไฟฟ้าพลังงานลม “โบโค ร็อค วินด์ฟาร์ม” ประเทศออสเตรเลีย และโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำ “ไซยะบุรี” ใน สปป.ลาว โดยทุกโครงการเป็นไปตามแผนการดำเนินงานที่วางไว้ และคาดว่าจะสามารถจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้ตามเวลาที่กำหนด

 

 

“สำหรับทิศทางการพัฒนาธุรกิจในอนาคตนั้น ในประเทศ เราจะปรับแผนกลยุทธ์ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับแผนพีดีพีฉบับใหม่ (พีดีพี 2015) ด้านต่างประเทศ เรายังคงแสวงหาโอกาสเพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งในกลุ่มประเทศอาเซียนและเอเชียแปซิฟิก โดยเฉพาะในฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย และออสเตรเลีย ซึ่งเรามีฐานอยู่แล้ว นอกจากนั้น ด้านการวางแผนเพื่อบริหารจัดการธุรกิจ บริษัทอยู่ระหว่างการพัฒนาแผนงานด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development – SD) เพื่อตอกย้ำการดำเนินธุรกิจโดยคำนึงถึงความสมดุลระหว่างเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม” นายสหัสกล่าว

 

สำหรับผลการดำเนินงานด้านการเงินในไตรมาส 3 ของปี 2557 สิ้นสุด ณ วันที่ 30 กันยายน 2557 บริษัทมีกำไรก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) และภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี จำนวน 2,150 ล้านบาท หากพิจารณา    ผลการดำเนินงาน 9 เดือนแรกของปี 2557 บริษัทมีกำไรก่อนผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน (FX) และภาษีเงินได้     รอการตัดบัญชี จำนวน 6,585 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน จำนวน 266 ล้านบาท

 

ปัจจุบันเอ็กโก กรุ๊ป มีโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศที่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว จำนวน 22 แห่ง คิดเป็นปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายและตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 4,805 เมกะวัตต์ และมีโครงการที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและพัฒนา จำนวน 8 โครงการ คิดเป็นปริมาณพลังไฟฟ้าตามสัญญาซื้อขายและตามสัดส่วนการถือหุ้นประมาณ 1,613 เมกะวัตต์

    

 

( ธนัสสรณ์ เปี่ยมสมบูรณ์ เรียบเรียง ;โทร 02-664-4451-2 อีเมล์: reporter@hooninside.com  )

Cr: http://www.hooninside.com/news-detail.php?id=407222

Cr pic : http://www.marinerthai.net/pic-news3/2013-03-14_008.jpg