ข้อมูลประเทศเป้าหมาย
ประเทศ แซมเบีย
ชื่ออย่างเป็นทางการ |
สาธารณรัฐแซมเบีย หรือ Republic of Zambia |
ที่ตั้ง |
อยู่ทางตอนกลางของทวีปแอฟริกาภาคใต้ เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกทางทะเล ระหว่างละติจูดที่ 15 00 องศาเหนือ ลองติจูดที่ 30 00 องศาตะวันออก |
พื้นที่ |
752,614 ตารางกิโลเมตร |
อาณาเขต |
ทิศเหนือติดกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก (เดิมชื่อซาอีร์) และแทนซาเนีย ทิศตะวันออกติดประเทศมาลาวีและโมซัมบิก ทิศใต้ติดซิมบับเว บอตสวานา นามิเบีย ทิศตะวันตกติดประเทศแองโกลา |
สภาพภูมิประเทศ |
ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูงซึ่งปกคลุมด้วยป่าทึบ แม่น้ำสายสำคัญ คือ แม่น้ำแซมเบซี (Zambezi) |
สภาพภูมิอากาศ |
แบบเขตร้อน (tropical) และอากาศเย็นบริเวณที่ราบสูง |
ทรัพยากรธรรมชาติ |
แซมเบียเป็นประเทศที่อุดมไปด้วยแร่ธาตุ ซึ่งทำรายได้ส่วนใหญ่ให้แก่ประเทศ แร่ธาตุที่สำคัญ ได้แก่ ทองแดง (ซึ่งแซมเบียผลิตมากเป็นอันดับที่ 4 ของโลก) โคบอลต์ (ผลิตมากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก) ตะกั่ว สังกะสี และถ่านหิน |
ภัยธรรมชาติ |
ภัยแล้ง และพายุเขตร้อน (ตุลาคม-เมษายน) |
จำนวนประชากร |
14,222,233 คน (ค่าประมาณการ เดือนกรกฏคมคม พ.ศ. 2556) |
อัตราการเติบโตของประชากร |
2.89% (ค่าประมาณ พ.ศ. 2556) |
สัญชาติ |
Zambian (s) |
เชื้อชาติ |
ส่วนใหญ่เป็นชนเผ่า Bantu และยังมีเผ่า Bemba ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เผ่า Nyanja ทางภาคตะวันออก เผ่า Tonga ทางภาคใต้ และเผ่า Lozi ทางภาคตะวันตก นอกจากนี้ มีชาวยุโรป ประมาณร้อยละ 1 และชาวเอเชียประมาณร้อยละ 0.2 |
ศาสนา |
ประชากรร้อยละ 50-75 นับถือศาสนาคริสต์นิกายโรมันคาธอลิก นอกนั้นนับถือศาสนาอิสลาม ฮินดู และความเชื่อต่าง ๆ |
ภาษา |
ภาษาอังกฤษ เป็นภาษาราชการ ภาษาท้องถิ่นที่สำคัญ ได้แก่ Bantu |
ประวัติศาสตร์โดยสังเขป
ชนเผ่าที่พูดภาษาบันตูได้อพยพเข้ามาอยู่ในบริเวณพื้นที่ที่เป็นประเทศแซมเบียในปัจจุบันเมื่อประมาณสองพันปีก่อน ในช่วงกลางศตวรรษที่ 19 ชาวยุโรป มิชชันนารี และพ่อค้าได้เดินทางเข้ามาในพื้นที่บริเวณนี้ ในปี 2431 (ค.ศ. 1888) นาย Cecil Rhodes ซึ่งกำกับดูแลผลประโยชน์ทางการค้าและการเมืองของอังกฤษในภูมิภาคแอฟริกาตอนกลาง ได้รับสัมปทานการทำเหมืองแร่จากหัวหน้าเผ่าต่างๆ ในพื้นที่ และในปีเดียวกันนั้น อังกฤษได้เข้ามามีอิทธิพลเหนือดินแดนโรดีเซียเหนือ (Northern Rhodesia) และโรดีเซียใต้ (Southern Rhodesia) (ซึ่งคือ ประเทศแซมเบียและ ซิมบับเวในปัจจุบัน) ในปี 2496 (ค.ศ. 1953) ดินแดนโรดีเซียทั้งสองได้รวมกับดินแดนนยาซาแลนด์ (Nyasaland ซึ่งปัจจุบัน คือ ประเทศมาลาวี) และกลายเป็นสมาพันธรัฐโรดีเซียและนยาซาแลนด์ (the Federation of Rhodesia and Nyasaland) อย่างไรก็ดี ได้เกิดความวุ่นวายในดินแดนโรดีเซียเหนือ เพราะชาวพื้นเมืองแอฟริกาต้องการมีส่วนร่วมในรัฐบาลมากขึ้น ผลการเลือกตั้งในปี 2505 (ค.ศ. 1962) ปรากฏว่า ชาวพื้นเมืองแอฟริกาได้รับเสียงข้างมากในสภานิติบัญญัติ ต่อมา สภานิติบัญญัติได้ผ่านมติเสนอให้ปลดปล่อยโรดีเซียเหนือจากสมาพันธรัฐโรดีเซียและนยาซาแลนด์ สมาพันธรัฐดังกล่าวได้สลายตัวลงในวันที่ 31 ธันวาคม 2506 (ค.ศ. 1963) ดินแดนโรดีเซียเหนือได้รับเอกราชจากอังกฤษในวันที่ 24 ตุลาคม 2507 (ค.ศ. 1964) และกลายเป็นสาธารณรัฐแซมเบีย
ในช่วง 6 ปีแรกหลังจากที่ได้รับเอกราช แซมเบียเป็นประเทศในภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ที่ร่ำรวยและมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจรวดเร็วมากที่สุดประเทศหนึ่ง เพราะสามารถผลิตทองแดงได้ในปริมาณมาก อย่างไรก็ดี ตั้งแต่ทศวรรษที่ 1970 อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของแซมเบียอยู่ในภาวะที่ไม่คงที่ เนื่องจาก ราคาทองแดงในตลาดโลกลดต่ำลงอย่างมาก ทำให้แซมเบียซึ่งส่งออกทองแดงเป็นสินค้าหลักได้รับผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจ ต้องพึ่งพาเงินกู้จากต่างประเทศ ประกอบกับราคาทองแดงตกต่ำลงอย่างต่อเนื่อง แซมเบียจึงประสบปัญหาไม่สามารถจ่ายชำระดอกเบี้ยและเงินกู้ได้ ทำให้ในช่วงกลางทศวรรษที่ 1990 แซมเบียเป็นหนึ่งในประเทศที่มีหนี้สินต่างประเทศต่อหัวมากที่สุดในโลก
ประธานาธิบดี Kenneth Kaunda ได้รับการยกย่องเป็นรัฐบุรุษผู้กอบกู้เอกราชของแซมเบีย ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดียาวนานตั้งแต่แซมเบียได้รับเอกราช จนถึงปี 2534 (ค.ศ. 1991) ระบบการเมืองของแซมเบียแต่เดิมนั้น มีพรรค United National Independence Party (UNIP) เป็นพรรคการเมืองที่ถูกต้องตามกฎหมายเพียงพรรคเดียว แต่ต่อมา สภาพความตกต่ำทางเศรษฐกิจและค่าครองชีพของประชาชน ทำให้ความนิยมในประธานาธิบดี Kaunda เสื่อมลง เกิดการจราจลในประเทศ และมีกลุ่มต่อต้านประธานาธิบดีพยายามทำรัฐประหารหลายครั้ง จนกระทั่งเมื่อเดือนธันวาคม 2533 (ค.ศ. 1990) จึงได้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพื่อเปิดทางให้มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยแบบหลายพรรค และได้มีการเลือกตั้งแบบประชาธิปไตยในเดือนตุลาคม 2534 (ค.ศ. 1991) ผลปรากฏว่า นาย Federick Chiluba ผู้นำสหภาพแรงงานได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีคนใหม่ และพรรค Movement for Multi-Party Democracy (MMD) ของนาย Chiluba สามารถครองที่นั่งส่วนใหญ่ในสภา
ธงและตราสัญลักษณ์
|
||||||
|
||||||
แผนที่
|
||||||
ที่มา: CIA - The World Factbook
ที่มา: CIA - The World Factbook
หมวดของข่าว : ลงทุนต่างประเทศ , ลงทุนอาเซียน , ข้อมูลการลงทุน
|
นโยบายด้านการเมือง รัฐบาลปัจจุบันของประธานาธิบดี Mwanawasaให้ความสำคัญกับการปราบปรามทุจริตและการประพฤติมิชอบในวงราชการ โดยใช้มาตรการปลดรัฐมนตรีที่ประพฤติผิดออกจากตำแหน่ง และให้การสนับสนุนคณะกรรมาธิการปราบปรามคอรัปชั่นแซมเบียในการดำเนินการปราบปรามทุจริตและคอรัปชั่นอย่างเอาจริงเอาจัง โดยเฉพาะ ได้พุ่งเป้าไปที่อดีตประธานาธิบดี Chiluba และบุคคลใกล้ชิด นอกจากนี้ ประธานาธิบดี Mwanawasa ยังได้ตั้งคณะทำงานพิเศษเพื่อสืบสวนและลงโทษข้าราชการที่ทุจริตในสมัยประธานาธิบดีคนก่อนด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประมุขและคณะรัฐบาล
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
Update กันยายน 2556 Chiefs of State and Cabinet Members of Foreign Governments
ที่มา:https://www.cia.gov/library/publications/world-leaders-1/world-leaders-z/zambia.html
หมวดของข่าว : ลงทุนต่างประเทศ , ลงทุนอาเซียน , ข้อมูลการลงทุน
|
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(GDP) |
23.68 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555) |
GDP รายบุคคล |
1,700 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555) |
อัตราการเจริญเติบโต GDP |
6.5% (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555) |
GDP แยกตามภาคการผลิต |
|
อัตราเงินเฟ้อ (Consumer Prices) |
6.5% (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555) |
ผลผลิตทางการเกษตร |
ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ข้าว ถั่วลิสง เมล็ดดอกทานตะวัน ผัก ดอกไม้ ยาสูบ ฝ้าย อ้อย แป้งมันสำปะหลัง กาแฟ ปศุสัตว์ แพะ สุกร สัตว์ปีก นม ไข่ หนังสัตว์ |
อุตสาหกรรม |
การทำเหมืองและแปรรูปทองแดง ก่อสร้าง อาหาร เครื่องดื่ม เคมีภัณฑ์ สิ่งทอ ปุ๋ย |
อัตราการเติบโตของอุตสาหกรรม |
8.8% (ค่าประมาณ พ.ศ. 2554) |
ดุลบัญชีเดินสะพัด |
-1.048 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555) |
มูลค่าการส่งออก |
8.346 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ f.o.b (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555) |
สินค้าส่งออก |
ทองแดง โคบอลท์ กระแสไฟฟ้า ยาสูบ ดอกไม้ ฝ้าย |
ประเทศ (คู่ค้่า) ส่งออกที่สำคัญ |
สวิสเซอร์แลนด์ 18.2% แอฟริกาใต้ 7.8% สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนคองโก5.4% จีน 34.8% เกาหลีใต้4.4% (ค่าประมาณ พ.ศ. 2554) |
มูลค่าการนำเข้า |
7.279 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ f.o.b (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555) |
สินค้านำเข้า |
เครื่องจักร อุปกรณ์เกี่ยวกับการขนส่ง สินค้าปิโตรเลียม กระแสไฟฟ้า ปุ๋ย อาหาร เสื้อผ้าสำเร็จรูป |
ประเทศ (คู่ค้า) นำเข้าที่สำคัญ |
แอฟริกาใต้ 36.7% สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนคองโก 20.6% จีน 10% คูเวต 5.9% (ค่าประมาณ พ.ศ. 2554) |
สกุลเงิน |
Zambian Kwacha (ZMK) |
สัญลักษณ์เงิน |
ZMK |
อัตราการแลกเปลี่ยนเงินตรา |
นโยบายทางเศรษฐกิจ
รัฐบาลมีเป้าหมายลดความยากจนและส่งเสริมการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ ประธานาธิบดี Mwanawasa ให้คำมั่นสัญญาที่จะฟื้นฟูเศรษฐกิจของประเทศ ซึ่งจัดว่าเป็นประเทศยากจนมากที่สุดประเทศหนึ่งในโลก โดยรัฐบาลจะใช้งบประมาณให้เกิดประสิทธิภาพ ลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็น โดยเฉพาะการปรับลดจำนวนตำแหน่งรัฐมนตรี และการกำหนดให้รัฐมนตรีซึ่งเดินทางมาปฏิบัติราชการในกรุงลูซากาเข้าพักในโรงแรมระดับธรรมดา เพื่อเป็นการประหยัดงบประมาณ สำหรับนำไปใช้ในด้านบริการสังคมอื่นๆ และการตรึงการปรับขึ้นเงินเดือนของข้าราชการไม่ให้สูงกว่าอัตราการขยายตัวของ GDP งบประมาณค่าใช้จ่ายต่างๆ จะนำไปใช้ในโครงการที่เกี่ยวข้องกับการลดความยากจน อาทิ โครงการเกี่ยวกับการศึกษา และการสาธารณสุข รวมถึงการต่อสู้กับโรคเอดส์ นอกจากนี้ ยังมีความพยายามจะลดการพึ่งพารายได้จากอุตสาหกรรมการผลิตทองแดงเพียงอย่างเดียว โดยพยายามส่งเสริมภาคการเกษตร การท่องเที่ยว การทำเหมืองอัญมณี และพลังงานไฟฟ้า
รัฐบาลมีนโยบายปรับปรุงและเพิ่มผลผลิตการเกษตร เพื่อทำให้แซมเบียมีผลผลิตข้าวโพดเพียงพอต่อการบริโภคภายในประเทศ ซึ่งนโยบายนี้ได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากหน่วยงานของประชาคมเพื่อการพัฒนาแห่งอนุภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ (the Southern African Development Community - SADC) และเห็นว่า นโยบายดังกล่าวจะมีส่วนช่วยให้แซมเบียพัฒนาเป็นแหล่งอาหารในกลุ่มประเทศสมาชิก SADC เนื่องจากแซมเบียมีดินที่อุดมสมบูรณ์ และมีปริมาณน้ำฝนเพียงพอต่อการเพาะปลูก
การปลดหนี้ประเทศยากจนและมีภาระหนี้สูง
แซมเบียเป็นส่วนหนึ่งของโครงการ Highly Indebted Poor Countries Initiative (HIPCI) ขององค์การการเงินระหว่างประเทศ และเมื่อต้นเดือนมิถุนายน 2548 ที่ประชุมระดับรัฐมนตรีคลังของกลุ่มประเทศอุตสาหกรรมชั้นนำหรือ G8 ได้แถลงว่า กลุ่ม G8 ได้แสดงความพร้อมที่จะปลดเปลื้องหนี้ต่างประเทศของประเทศยากจนที่มีหนี้สินสูง (Highly-Indebted Poor Countries: HIPC) ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในทวีปแอฟริกา ตามโครงการ HIPCI ของธนาคารโลกและองค์การการเงินระหว่างประเทศ โดยเป็นการยกเลิกหนี้ต่างประเทศทั้งหมดของประเทศที่เข้าข่ายได้รับการยกเลิกหนี้สิน ที่ยอมรับแผนการปฏิรูปเศรษฐกิจ มีธรรมาภิบาล มีการปราบปรามการคอรัปชั่นอย่างจริงจัง สนับสนุนประชาธิปไตยและหลักกฎหมาย โดยมี 38 ประเทศที่อยู่ในโครงการยกเลิกหนี้สินนี้ และแซมเบียเป็น 1 ใน 18 ประเทศที่เข้าข่ายจะได้รับการยกเลิกหนี้สินทันที
หมวดของข่าว : ลงทุนต่างประเทศ , ลงทุนอาเซียน , ข้อมูลการลงทุน
ด้านการทูต ไทยสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับแซมเบียเมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2530 (ค.ศ. 1987) โดยฝ่ายแซมเบียได้มอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูตแซมเบียประจำสาธารณรัฐประชาชนจีนมีเขตอาณาครอบคลุมประเทศไทย ขณะที่ฝ่ายไทยมอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพริทอเรียมีเขตอาณาครอบคลุมแซมเบีย เอกอัครราชทูต ณ กรุงพริทอเรียคนปัจจุบัน คือ นายโดมเดช บุนนาค ด้านการเมือง ความสัมพันธ์ระหว่างไทย-แซมเบียราบรื่น ไม่มีปัญหาระหว่างกัน แต่ยังค่อนข้างห่างเหิน ไม่ค่อยมีการแลกเปลี่ยนการเยือนระหว่างกัน อย่างไรก็ดี แซมเบียให้การสนับสนุนไทยในเวทีระหว่างประเทศเสมอมา และทั้งสองประเทศมีท่าทีในเวทีระหว่างประเทศที่สอดคล้องกัน ความสัมพันธ์ไทย-แซมเบียในทางเศรษฐกิจนั้นค่อนข้างน้อย ปัจจุบันมีคนไทยที่ประกอบธุรกิจร้านอาหารและเป็นคู่สมรสกับชาวแซมเบียและชาวต่างชาติที่อาศัยอยู่ในแซมเบียประมาณ 10 คน ซึ่งถือเป็นตัวเลขที่น้อยมากเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในแอฟริกา อย่างไรก็ดี แซมเบียนับเป็นคู่ค้าและแหล่งวัตถุดิบที่สำคัญประเทศหนึ่งในทวีปแอฟริกา ซึ่งไทยนำเข้าวัตถุดิบประเภทสินแร่โลหะ เศษโลหะ และผลิตภัณฑ์จากแซมเบียสูงมาก ทำให้ไทยขาดดุลการค้ากับแซมเบียมาโดยตลอดโดยเฉพาะปี 2549 ที่นำเข้าสูงถึง 10,527 ล้านบาท สำหรับสินค้าที่ไทยส่งออกไปแซมเบีย ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์รถยนต์ และเสื้อผ้าสำเร็จรูป เป็นต้น ด้านการลงทุนนั้น นักธุรกิจไทยเข้าไปลงทุนในแซมเบียน้อยมากและจำกัดอยู่แค่เฉพาะธุรกิจร้านอาหารเป็นส่วนใหญ่ ทั้งนี้ เนื่องจากแซมเบียยังไม่ค่อยเป็นที่รู้จักของนักธุรกิจไทย อีกทั้ง ระบบการบริหารจัดการภายในของแซมเบียในการจัดเก็บภาษี การส่งเสริมการลงทุน และความโปร่งใสยังขาดมาตรฐานและไม่มีความเป็นสากล จึงไม่ค่อยได้รับความเชื่อถือจากนักลงทุนไทยเท่าใดนัก ความตกลงทางการบิน ได้มีการลงนามย่อความตกลงว่าด้วยการบริการเดินอากาศระหว่างไทย-แซมเบีย โดยอธิบดีกรมการขนส่งทางอากาศและผู้อำนวยการการขนส่งทางอากาศแซมเบีย เมื่อวันที่ 19 มกราคม 2534 ที่กรุงเทพฯ
การเยือนที่สำคัญ ฝ่ายไทย
ฝ่ายแซมเบีย
ผู้แทนทางการทูต ฝ่ายไทย ----------------------------------------------------------------- ที่มา: กองแอฟริกา กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา กระทรวงการต่างประเทศ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ตารางที่ 1 : การค้าไทย-แซมเบีย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ตารางที่ 2 : สินค้าส่งออกที่สำคัญ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ตารางที่ 3 : สินค้านำเข้าที่สำคัญ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สถานที่ติดต่อทางการทูต
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ที่อยู่
The Embassy of the Republic of Zambia No. 5 Dong Si Jie, San Li Tun, Tel: (8610) 6532-1554, 6532-1778, 6532-2058 Fax: (8610) 6532-1891 |
หมวดของข่าว : ลงทุนต่างประเทศ , ลงทุนอาเซียน , ข้อมูลการลงทุน