ข้อมูลประเทศเป้าหมาย
ประเทศ มอริเชียส
ธงและตราสัญลักษณ์
|
||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||
แผนที่
|
||||||||||||||||||||||||||||
ที่มา: CIA - The World Factbook
ที่มา: CIA - The World Factbook
ที่มา : Mauritius Map, Political Map of Mauritius
|
||||||||||||||||||||||||||||
ข้อมูลทั่วไป
|
||||||||||||||||||||||||||||
ประวัติศาสตร์โดยสังเขป ชาวยุโรปกลุ่มแรกที่เดินทางมาถึงเกาะมอริเชียสได้แก่ชาวโปรตุเกส ซึ่งเดินทางเข้ามาในช่วงต้นศตวรรษที่ 16 ต่อมาเมื่อปี ค.ศ. 1598 นักแล่นเรือชาวเนเธอร์แลนด์ได้เดินทางมาถึงเกาะเล็ก ๆ เกาะหนึ่งในมหาสมุทรอินเดียและได้ตั้งชื่อว่ามอริเชียส(Mauritius) ตามชื่อของ Prince Maurice de Nassau ประมุขของพวกตน ชาวเนเธอร์แลนด์จึงเป็นกลุ่มแรกที่เข้ามาตั้งรกรากในเกาะแห่งนี้ และเป็นผู้นำอ้อยเข้ามาปลูกในมอริเชียสก่อนที่จะย้ายออกไปเมื่อปี ค.ศ. 1710 และอีก 5 ปีต่อมา บริษัทอินเดียตะวันออกของฝรั่งเศส (French East India Company) ได้เข้ามายึดครองเกาะมอริเชียสพร้อมกับเปลี่ยนชื่อเป็น "Isle de France" ต่อมาได้สถาปนา Port Louis (ตั้งชื่อตามพระนามของพระเจ้า Louis ที่ 15) เป็นเมืองหลวงของมอริเชียส การค้าได้เจริญเติบโตขึ้นตั้งแต่นั้นมา โดยมอริเชียสสามารถจัดส่งน้ำตาลและเหล้ารัม (rum) ให้แก่เกาะรอบ ๆ และเรือที่มาเยือนได้อย่างเพียงพอ ในปี ค.ศ. 1810 อังกฤษได้เข้าครอบครองมอริเชียสต่อจากฝรั่งเศส และทั้งสองฝ่ายได้ลงนามสนธิสัญญาปารีส (The Treaty of Paris) เมื่อปี ค.ศ. 1814 เพื่อเป็นการยืนยันการครอบครองมอริเชียสของอังกฤษอย่างสมบูรณ์ จนกระทั่งได้รับเอกราชเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 1868 ซึ่งถือว่าเป็นวันชาติมอริเชียสในปัจจุบัน มอริเชียสได้รับเอกราชและเข้าเป็นสมาชิกของเครือจักรภพอังกฤษเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 1968 โดยมีสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 แห่งอังกฤษ เป็นองค์ประมุขและมีผู้สำเร็จราชการ (Governor - General) เป็นผู้แทนพระองค์ประจำอยู่ที่มอริเชียส โดยกำหนดให้ประธานาธิบดีเป็นประมุขของรัฐแทน มอริเชียสเปลี่ยนเป็นสาธารณรัฐเมื่อวันที่ 12 มีนาคม ค.ศ. 1992 โดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุขแห่งรัฐ
การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งทางการเมืองดังกล่าวในมอริเชียส เป็นความตกลงระหว่างพรรคการเมืองร่วมรัฐบาลที่ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปเมื่อวันที่ 11 กันยายน 2543 ซึ่ง Sir Anerood Jugnauth หัวหน้าพรรค Mauritian Socialist Movement (MSM) ได้ตกลงไว้ว่าจะสละตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ให้แก่ นาย Paul Berenger รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค Mauritian Militant Movement (MMM) เมื่อเหลือระยะเวลาการบริหารประเทศอีก 2 ปี การเปลี่ยนแปลงตำแหน่งทางการเมืองครั้งนี้ นับเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ทางการเมืองของมอริเชียสที่มีการถ่ายโอนอำนาจการบริหารประเทศระหว่างพรรคการเมืองร่วมรัฐบาล
|
หมวดของข่าว : ลงทุนต่างประเทศ , ลงทุนอาเซียน , ข้อมูลการลงทุน
รูปแบบการปกครอง |
สาธารณรัฐ (Republic) โดยมีประธานาธิบดีเป็นประมุข แห่งรัฐ ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐสภา (National Assembly) มีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี และนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร และได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดี |
เมืองหลวง |
กรุงพอร์ตหลุยส์ (Port Louis) |
การแบ่งเขตการปกครอง |
9 เขต (districts) และ 3 เขตในอาณัติ (dependencies) ได้แก่ (1.) Black River (2.) Flacq (3.) Grand Port (4.) Moka (5.) Pamplemousses (6) Plaines Wilhems (7.) Port Louis (8.) Riviere du Rempart (9.) Savanne |
วันที่ได้รับเอกราช |
วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2511 (ค.ศ. 1968) |
รัฐธรรมนูญ |
วันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2511 (ค.ศ. 1968) แก้ไขปรับปรุงวันที่ 12 มีนาคม พ.ศ. 2535 (ค.ศ. 1992) |
ระบบกฎหมาย |
มีรากฐานมาจากประมวลกฎหมายของฝรั่งเศส (French Civil Law System) ประกอบกับกฎหมายจารีตประเพณีอังกฤษ (English Common Law) ในบางกรณี ยอมรับเขตอำนาจโดยบังคับของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) โดยมีการสงวนสิทธิ์บางประการ |
ฝ่ายบริหาร | ประธานาธิบดีเป็นประมุขของรัฐ ได้รับการแต่งตั้งจากรัฐสภา (National Assembly) มีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี และนายกรัฐมนตรีเป็นหัวหน้าฝ่ายบริหาร และได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดี ประธานาธิบดีเป็นผู้แต่งตั้งคณะรัฐบาลตามคำแนะนำของนายกรัฐมนตรี การเลือกตั้งครั้งต่อไปมีขึ้นในปี 2013 |
ฝ่ายนิติบัญญัติ | ระบบสภาเดียว (Unicameral National Assembly) สมาชิก 70 ที่นั่ง 62 ที่นั่งมาจากการเลือกตั้ง 8 ที่นั่งได้รับการแต่งตั้งจากคณะกรรมการการเลือกตั้งเพื่อให้เป็นตัวแทนชนกลุ่มน้อยหลายกลุ่ม มีวาระการดำรงตำแหน่ง 5 ปี การเลือกตั้งครั้งต่อไปจะมีขึ้นในปี 2010 |
ฝ่ายตุลาการ | ระบบศาลฎีกา (Supreme Court) |
หมวดของข่าว : ลงทุนต่างประเทศ , ลงทุนอาเซียน , ข้อมูลการลงทุน
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(GDP) |
20.26 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555) |
GDP รายบุคคล |
15,600 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555) |
อัตราการเจริญเติบโต GDP |
3.4% (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555) |
GDP แยกตามภาคการผลิต |
|
อัตราการว่างงาน |
8% (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555) |
อัตราเงินเฟ้อ (Consumer Prices) |
4.7% (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555) |
ผลผลิตทางการเกษตร |
อ้อย ชา ข้าวโพด มันฝรั่ง เมล็ดพืชประเภทถั่ว ปศุสัตว์ แพะ |
อุตสาหกรรม |
แปรรูปอาหาร (ส่วนใหญ่จะเป็นโรงงานน้ำตาล) สิ่งทอ เสื้อผ้า ทำเหมือง เคมีภัณฑ์ ผลิตภัณฑ์จากเหล็ก อุปกรณ์การขนส่ง เครื่องมือที่ไม่ใช่เครื่องไฟฟ้า การท่องเที่ยว |
อัตราการเกิบโตภาคอุตสาหกรรม |
3.3% (ค่าประมาณ พ.ศ. 2553) |
ดุลบัญชีเดินสะพัด |
ขาดดุล 1.433 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555) |
มูลค่าการส่งออก |
2.631 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ f.o.b (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555) |
สินค้าส่งออก |
น้ำตาล กากน้ำตาล เสื้อผ้าและสิ่งทอ ดอกไม้ตัด |
ประเทศคู่ค้า (ส่งออก)ที่สำคัญ |
สหราชอาณาจักร 21.3% ฝรั่งเศส 17.8% สหรัฐอเมริกา 10.5% มาดากัสการ์ 6.2% อิตาลี 8.1% สเปน 7.1% แอฟริกาใต้ 7.7% (ค่าประมาณ พ.ศ. 2554) |
มูลค่าการนำเข้า |
5.111 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ f.o.b (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555) |
สินค้านำเข้า |
สินค้าอุตสาหกรรม เครื่องประกอบการพื้นฐาน ผลิตภัณฑ์ อาหาร น้ำมัน และผลิตภัณฑ์เคมี |
ประเทศคู่ค้า (นำเข้า) ที่สำคัญ |
อินเดีย 25.2% จีน 13.6% ฝรั่งเศส 9.1% แอฟริกาใต้ 6.9% (ค่าประมาณ พ.ศ. 2554) |
สกุลเงิน |
มอริเชียสรูปี (Mauritian rupee - MUR) |
สัญลักษณ์เงิน |
MUR |
อัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา |
ตั้งแต่ได้รับเอกราชในปี 2511 มอริเชียสได้พัฒนาจากประเทศที่มีรายได้ต่ำ และเน้นเกษตรกรรม เป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจหลากหลาย และมีรายได้ปานกลาง โดยภาคอุตสาหกรรม การเงิน และการท่องเที่ยวมีการเจริญเติบโต และการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอยู่ในระดับร้อยละ 5 ถึงร้อยละ 6 เป็นส่วนใหญ่ ความสำเร็จทางด้านเศรษฐกิจจะเห็นได้จากการเฉลี่ยรายได้อย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น ประชากรมีอายุยืนยาวมากขึ้น อัตราการตายของทารกต่ำลง และโครงสร้างพื้นฐานที่มีการปรับปรุงขึ้นอย่างมาก พื้นที่ประมาณร้อยละ 90 ใช้ในการปลูกอ้อย ซึ่งเป็นรายได้จากการส่งออกถึงร้อยละ 25
ยุทธศาสตร์การพัฒนาที่สำคัญของประเทศซึ่งมุ่งไปที่การลงทุนจากต่างประเทศ เป็นการช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้แก่นักลงทุนต่างชาติ ซึ่งส่งผลให้มอริเชียสมีความเจริญก้าวหน้าทางด้านเศรษฐกิจล้ำหน้ากว่าประเทศอื่น ๆ ในทวีปแอฟริกา โดยมอริเชียสสามารถดึงดูดบริษัทต่างชาติกว่า 9,000 แห่ง ซึ่งส่วนใหญ่มุ่งค้าขายกับอินเดียและแอฟริกาใต้ และการลงทุนเฉพาะในภาคธนาคารอย่างเดียวสูงถึงกว่า 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยในขณะนี้ มีธุรกิจให้บริการด้านการเงินจากต่างประเทศประมาณ 18,000 บริษัท เปิดกิจการอยู่ในมอริเชียส และจากการที่มอริเชียสมีภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอที่แข็งแกร่งและการบริหารการเงินที่ดี ทำให้ได้ประโยชน์อย่างเต็มที่จากพระราชบัญญัติ Africa Growth and Opportunity Act (AGOA) ของสหรัฐฯ
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลมอริเชียสยังเห็นว่า อุตสาหกรรมสิ่งทอ และอ้อยและน้ำตาล ซึ่งเป็นอุตสาหกรรมพื้นฐานดั้งเดิมของประเทศ ไม่สามารถสร้างงานและรายได้ให้แก่ชาวมอริเชียสได้เพียงพอ รัฐบาลจึงเน้นการพัฒนาสาขาเทคโนโยลีสารสนเทศ โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะพัฒนามอริเชียสให้เป็นเกาะแห่งคอมพิวเตอร์ (cyber island) รัฐบาลกำลังกระตุ้นการลงทุนจากต่างประเทศในด้านเทคโนโลยีข่าวสาร โดยมีโครงการลงทุนก่อสร้าง "cyber city" มูลค่า 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สำหรับธุรกิจสื่อสารและคอมพิวเตอร์ในมอริเชียสด้วย
ในส่วนของอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวนั้น มอริเชียสเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สวยงามและเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ ซึ่งในแต่ละปีมีนักท่องเที่ยวต่างชาติจำนวนมากเดินทางไปมอริเชียส ส่งผลให้รัฐบาลสามารถดึงดูดการลงทุนใหม่ๆ ด้านการท่องเที่ยวได้เป็นอย่างดี
ปัญหาอัตราการว่างงานเป็นปัญหาสังคมที่สำคัญประการหนึ่งของมอริเชียส แม้ว่าในปีที่ผ่านมาอัตราการจ้างงานได้เพิ่มสูงขึ้นเนื่องจากการลงทุนจากต่างชาติ ได้เข้ามาลงทุนในอุตสาหกรรมต่างๆ ในมอริเชียสมากยิ่งขึ้น แต่จำนวนคนงานที่ทำงานในภาคการเกษตรและอุตสาหกรรมในท้องถิ่นยังคงมีจำนวนลดลงอย่างต่อเนื่อง แนวโน้มดังกล่าวแสดงให้เห็นว่า แรงงานไร้ฝีมือของมอริเชียสจะประสบปัญหาว่างงานมากขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต
หมวดของข่าว : ลงทุนต่างประเทศ , ลงทุนอาเซียน , ข้อมูลการลงทุน
ไทยกับมอริเชียสสถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อวันที่ 22 มกราคม 2522 โดยไทยได้มอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพริทอเรีย มีเขตอาณาครอบคลุมมอริเชียส และนาย Andrew Sek Sum เป็นกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำมอริเชียส ส่วนฝ่ายมอริเชียสได้มอบหมายให้ สถานเอกอัครราชทูตมอริเชียสประจำประเทศมาเลเซียมีเขตอาณาครอบคลุมประเทศไทย จากข้อมูลที่ได้รับรายงานจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพริทอเรียเมื่อเดือนมีนาคม 2549 มีคนไทยที่อาศัยอยู่ในมอริเชียสจำนวนทั้งสิ้นประมาณ 25 คน โดยส่วนใหญ่มีอาชีพแม่บ้านและกิจการร้านอาหาร ด้านการเมือง มอริเชียสสนับสนุนไทยในเวทีระหว่างประเทศเสมอมา โดยได้สนับสนุนไทยในการสมัครเข้าเป็นสมาชิกสมาคมความร่วมมือแห่งภูมิภาคมหาสมุทรอินเดีย (Indian Ocean Rim - Association for Regional Cooperation : IOR - ARC) ซึ่งมอริเชียสเป็นหนึ่งในประเทศผู้ริเริ่มให้มีการก่อตั้งสมาคมดังกล่าว ด้านเศรษฐกิจ มูลค่าการค้าระหว่างไทยและมอริเชียสตั้งแต่ปี 2546-2549 เพิ่มมากขึ้นทุกปี โดยไทย เป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้าตลอดมา ในปี 2549 การค้าระหว่างไทย-มอริเชียสมีมูลค่าทั้งสิ้น 1,970 ล้านบาท ซึ่งมูลค่าการส่งออกของไทยคิดเป็น 1,820.1 ล้านบาท และมูลค่าการนำเข้าเท่ากับ 149.9 ล้านบาท สินค้าออกสำคัญของไทยไปมอริเชียส ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เม็ดพลาสติก ผ้าผืน สำหรับสินค้าหลักที่ไทยนำเข้าจากมอริเชียส ได้แก่ สัตว์น้ำสด แช่เย็น แช่แข็งและแปรรูป เยื่อกระดาษและเศษกระดาษ สินแร่โลหะ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ เป็นต้น ฝ่ายไทย -ระดับรัฐบาล
ฝ่ายมอริเชียส -ระดับรัฐบาล
ความตกลงที่สำคัญ
ผู้แทนทางการทูต ฝ่ายไทย
เอกอัครราชทูตประจำสาธารณรัฐมอริเชียส ถิ่นพำนัก ณ กรุงพริทอเรีย นายโดมเดช บุนนาค Consular Info : visa@thaiembassy.co.za Trade Info : trade@thaiembassy.co.za Website : http://www.thaiembassy.co.za
ฝ่ายมอริเชียส
------------------------------------------------------------------------ ที่มา: กองแอฟริกา กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา กระทรวงการต่างประเทศ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ตารางที่ 1 : การค้ารวม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ตารางที่ 2: สินค้าส่งออกที่สำคัญ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ตารางที่ 3 : สินค้านำเข้าที่สำคัญ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
สถานที่ติดต่อทางการทูต
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ที่อยู่
The Embassy of the Republic of Mauritius 17th Floor West Block, Tel: (603) 2163-6301, 2163-6306 Fax: (603) 2163-6294 E-mail: maurhckl@streamyx.com |
หมวดของข่าว : ลงทุนต่างประเทศ , ลงทุนอาเซียน , ข้อมูลการลงทุน