ข้อมูลประเทศเป้าหมาย
ประเทศสหพันธ์สาธารณรัฐไนจีเรีย
ที่ตั้ง ตั้งอยู่บนชายฝั่งตะวันตกของ ทวีปแอฟริกา ทิศเหนือติดกับไนเจอร์ ทิศตะวันออกเฉียงเหนือติดกับชาด ทิศตะวันออกติดกับแคเมอรูน ทิศตะวันตกติดกับเบนิน ทิศใต้ติดกับมหาสมุทรแอตแลนติกบริเวณอ่าวกินี มีชายฝั่งทะเลยาวประมาณ 853 กิโลเมตร
พื้นที่ 923,773 ตารางกิโลเมตร
เมืองหลวง กรุงอาบูจา (Abuja)
ประชากร 174.5 ล้านคน (ปี 2557)
ภูมิอากาศ อากาศร้อนชื้น มี 2 ฤดู คือ ฤดูร้อนและฤดูฝน ภาคใต้ฝนตกชุกเป็นระยะเวลานาน ภาคเหนืออากาศค่อนข้างร้อนและแห้งเกือบตลอดปี ระหว่างเดือนพฤศจิกายน - มีนาคม จะมีฝุ่นละอองพัดมาจากทะเลทรายซาฮาราปกคลุมทั่วท้องฟ้า เรียกว่า ฮามาตัน (Harmattan)
ภาษาราชการ ภาษาอังกฤษ
ศาสนา อิสลาม ร้อยละ 50 (ส่วนใหญ่อยู่ทางภาคเหนือ) คริสต์ ร้อยละ 40 (ส่วนใหญ่อยู่ทางภาคใต้) ความเชื่อดั้งเดิม ร้อยละ 10
หน่วยเงินตรา ไนรา (Naira) หน่วยย่อยคือ โกโบ (1 ไนรา = 100 โกโบ) 1 บาท = 4.94 ไนรา (ข้อมูลวันที่ 13 ธันวาคม 2556)
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ 282.0 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณการปี 2556)
รายได้ประชาชาติต่อหัว 2,815.0 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณการปี 2556)
การขยายตัวทางเศรษฐกิจ ร้อยละ 6.5 (ประมาณการปี 2556)
ระบอบการปกครอง ประชาธิปไตยแบบรัฐสภา ระบบ 2 สภา โดยมีประธานาธิบดี ซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยตรง เป็นประมุขแห่งรัฐและหัวหน้ารัฐบาล ดำรงตำแหน่งวาระละ 4 ปี จำกัดไม่เกิน 2 วาระ
ประธานาธิบดี นายกูดลัก เอเบเล อะซีคีเว โจนาทาน (Mr. Goodluck Ebele Azikiwe Jonathan) เข้าดำรงตำแหน่งเมื่อ 6 พฤษภาคม 2553
รัฐมนตรีต่างประเทศ : นายอมินู วาลี (เข้ารับตำแหน่งเมื่อ มี.ค. 2557)
อัตราแลกเปลี่ยน : 1 บาท = 6.16 ไนร่า
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ : 502 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2556)
การขยายตัวทางเศรษฐกิจ : ร้อยละ 6.2 (ปี 2556)
รายได้ประชาชาติต่อหัว : 2,800 ดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2556)
อัตราเงินเฟ้อ : ร้อยละ 8.7 (ปี 2556)
เงินทุนสำรอง : ร้อยละ 47.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ (ปี 2556)
อุตสาหกรรมหลัก : น้ำมันดิบ ถ่านหิน ดีบุก แร่โคลัมไบต์ ผลิตภัณฑ์ยางพารา ไม้ เขาสัตว์และหนังสัตว์ ซีเมนต์และอุปกรณ์ก่อสร้างอื่น ๆ อาหาร รองเท้า เคมีภัณฑ์ ปุ๋ย สิ่งพิมพ์เซรามิก เหล็ก
สินค้านำเข้าที่สำคัญ : เครื่องจักร เคมีภัณฑ์ อุปกรณ์ขนส่ง สินค้าอุตสาหกรรม อาหาร และปศุสัตว์
สินค้าส่งออกที่สำคัญ : ปิโตรเลียมและผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม โกโก้ ยางพารา
ประเทศคู่ค้าสำคัญ นำเข้าจาก : จีน สหรัฐฯ อินเดีย เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ ส่งออกไปยัง อินเดีย เนเธอร์แลนด์ บราซิล สเปน ฝรั่งเศส
ในศตวรรษที่ 18 ดินแดนที่เป็นไนจีเรียในปัจจุบันเคยเป็นศูนย์กลางของการค้าทาส และอังกฤษได้เข้ายึดเมืองท่าลากอสในเดือนสิงหาคม 2394 ต่อมาได้ขยายอิทธิพลไปยังดินแดนโดยรอบเมืองท่าลากอสและลุ่มแม่น้ำไนเจอร์จนนำไปสู่การจัดตั้งบริษัท Royal Niger Company ซึ่งมีการจัดการทางการเมืองของตนเอง จนถึงวันที่ 1 มกราคม 2443 บริษัทฯ จึงได้โอนดินแดนให้อยู่ในการปกครองของอังกฤษและได้จัดตั้ง “อาณานิคมและรัฐในอารักขาแห่งไนจีเรีย” เมื่อปี 2457
สหพันธ์สาธารณรัฐไนจีเรียได้รับเอกราชอย่างสมบูรณ์เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2503 และได้เป็นสาธารณรัฐเมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2506 หลังจากนั้น ได้มีรัฐประหารเมื่อวันที่ 15 มกราคม 2509 และเกิดความขัดแย้งระหว่างเชื้อชาติและภูมิภาค เนื่องจากชนเผ่า Hausa ทางเหนือเกรงว่าจะถูกครอบงำโดยชนเผ่า Igbo ทางตะวันออกของประเทศ ภูมิภาคตะวันออกจึงตัดสินใจถอนตัวและจัดตั้งเป็นสาธารณรัฐแห่งไบอาฟรา (Republic of Biafra) เมื่อเดือนพฤษภาคม 2510 นับเป็นจุดเริ่มต้นของสงครามกลางเมืองนองเลือดที่ยืดเยื้อ เพราะการแทรกแซงจากต่างประเทศและภาวะขาดแคลนอาหารอย่างรุนแรง ในที่สุด เมื่อปี 2513 สาธารณรัฐแห่งไบอาฟราก็พ่ายแพ้
ต่อมามีความพยายามหลายครั้งที่จะให้มีการปกครองโดยพลเรือน แต่ฝ่ายทหารขัดขวาง หลังจากที่นาย Ken Saro-wiwa ผู้สนับสนุนการแบ่งแยกดินแดนของรัฐ Ogoni และนักเคลื่อนไหวเพื่อสิทธิของประชาชน อีก 7 คน ถูกประหารชีวิตเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2538 ไนจีเรียก็ถูกขับออกจากการเป็นสมาชิกของกลุ่มประเทศเครือจักรภพเป็นการชั่วคราว พลเอก Sani Abacha ซึ่งขึ้นเป็นผู้นำของไนจีเรียตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2536 ได้ให้คำมั่นว่าจะจัดให้มีการถ่ายโอนอำนาจการปกครองให้กับรัฐบาลพลเรือน ซึ่งจะมาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตยในเดือนตุลาคม 2541 แต่พลเอก Abacha ถึงแก่อนิจกรรมก่อน เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2541 ด้วยโรคหัวใจวาย คณะรัฐมนตรีปกครองชั่วคราว (Provisional Ruling Council) จึงได้เลือกพลเอก Abdulsalam Abubakar เสนาธิการทหารเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดี แทนพลเอก Abacha
พลเอก Abubakar ตระหนักถึงสถานการณ์ของรัฐบาลทหารที่ถูกต่อต้านจากประชาชนและนานาชาติ จึงมีท่าทีผ่อนปรนและประนีประนอมมากขึ้น โดยได้ปล่อยนักโทษการเมือง ซึ่งหนึ่งในนักโทษการเมืองคนสำคัญที่ได้รับการปล่อยตัวคือ พลเอก Olusegun Obasanjo จากนั้น พลเอก Abubakar ได้ให้สัญญาว่าจะลาออกและคืนอำนาจให้ประชาชน โดยได้จัดการเลือกตั้งทั่วไปขึ้นเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2542 ซึ่งในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งนั้นปรากฏว่า พลเอก Olusegun Obasanjo หัวหน้าพรรค People’s Democratic Party (PDP) ได้รับชัยชนะด้วยคะแนนท่วมท้น รวมทั้งพรรค PDP ก็ได้รับเสียงข้างมากในวุฒิสภาและสภาผู้แทนราษฎร และได้สาบานตนเข้ารับตำแหน่งประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐไนจีเรีย เมื่อวันที่ 29 พฤษภาคม 2542 นับเป็นประธานาธิบดีที่มาจากการเลือกตั้งคนแรกในรอบ 15 ปี และเป็นครั้งแรกที่ไนจีเรียสามารถเปลี่ยนการปกครองจากรัฐบาลทหารสู่รัฐบาลพลเรือน