ข้อมูลประเทศเป้าหมาย
ประเทศ นามิเบีย
ธงและตราสัญลักษณ์
|
||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||
แผนที่
|
||||||||||||||||||||||||||||||
ที่มา: https://www.cia.gov/library/publications/the-world-factbook/maps/wa_largelocator_template.html
ที่มา: http://www.geographicguide.com/africa-maps/namibia.htm |
||||||||||||||||||||||||||||||
ข้อมูลทั่วไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
ประวัติศาสตร์โดยสังเขป ชื่อประเทศนามิเบีย (Namibia) มาจากชื่อของทะเลทรายนามิบ (Namib Desert) ซึ่งมีความยาวเกือบตลอดชายฝั่งของนามิเบียและช่วยป้องกันนามิเบียส่วนใน จากการถูกปกครองโดยชาวยุโรปจนถึงศตวรรษที่ 19 โดยในปีพ.ศ. 2421 (1878) Walvis Bay ซึ่งเป็นเมืองท่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุดของนามิเบียถูกกำหนดให้อยู่ภายใต้การปกครองของอังกฤษ และต่อมาเยอรมนีเข้าปกครองแอฟริกาตะวันตกเฉียงใต้ (South West Africa) อันเป็นผลมาจากสนธิสัญญาเบอร์ลิน ในปีพ.ศ. 2428 (1885) อย่างไรก็ดี Walvis Bay ไม่เคยอยู่ภายใต้การปกครองของเยอรมนี การต่อสู้เพื่อความเป็นเอกราชจากแอฟริกาใต้ ในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 กองกำลังแอฟริกาใต้เข้ายึดครองแอฟริกาตะวันตกเฉียงใต้ (บริเวณประเทศนามิเบียในปัจจุบัน) และจากความเห็นชอบขององค์การสันนิบาติชาติ (League of Nations) แอฟริกาใต้จึงได้ปกครองแอฟริกาตะวันตกเฉียงใต้มาจนถึงปี 1945 เมื่อองค์การสหประชาชาติ (UN) มีการประกาศให้แอฟริกาตะวันตกเฉียงใต้เป็นรัฐที่มุ่งไปสู่การปลดเปลื้องตนเองจากการถูกยึดครอง แต่แอฟริกาใต้ไม่เห็นด้วยกับถ้อยแถลงดังกล่าว ในช่วงปลายทศวรรษที่ 1950 (ประมาณพ.ศ. 2499 - 2502) แอฟริกาตะวันตกเฉียงใต้ได้มีการจัดตั้งองค์การชาตินิยมขึ้นมา 2 องค์การคือ 1. South West African National Union (SWANU) ซึ่งมีฐานปฏิบัติการอยู่ที่เมือง Herero และ 2. Ovamoland People\'s Congress ซึ่งได้เปลี่ยนชื่อเป็น SWAPO ในปีพ.ศ. 2503 (1960) ภายใต้การนำของนาย Nujoma ในขณะนั้น SWAPO ได้รับการยอมรับและสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศให้เป็นตัวแทนที่ชอบธรรมของนามิเบีย แต่แอฟริกาใต้ยังคงปฏิเสธที่จะเจรจาเพื่อมอบเอกราชคืนแก่นามิเบีย โดยในปี 2503 (1960) นั้น SWAPO ได้นำโครงการและแนวคิดของลัทธิมาร์กซิสต์-เลนินนิสต์มาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับสหภาพโซเวียตโดยหวังพึ่งการสนับสนุนทางด้านอาวุธเพื่อทำสงครามต่อต้านแอฟริกาใต้ ภายหลังจากที่แองโกลาได้รับเอกราชในปี 2518 (1975) SWAPO ได้ตั้งฐานที่มั่นใน แองโกลาและได้ทำการโจมตีตามแนวชายแดนเพื่อต่อต้านกองกำลังแอฟริกาใต้ จนกระทั่งปี 2521 (1978) คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้มีมติที่ 435 ซึ่งเป็นพื้นฐานของกระบวนการกลับคืนสู่เอกราชของนามิเบียและนำไปสู่การเลือกตั้งที่เสรีและยุติธรรม โดยความช่วยเหลือของสหประชาชาติ สหรัฐอเมริกา แองโกลา คิวบาและแอฟริกาใต้ และในปี 2531 (1988) ความพยายามของสหประชาชาติก็ประสบผลสำเร็จเมื่อแอฟริกาใต้ถอนทหารออกจากนามิเบีย พรรค SWAPO ได้รับการยอมรับและเป็นที่ชื่นชอบอย่างแพร่หลายของชาวนามิเบียเนื่องจากเป็นแกนนำหลักในการเรียกร้องเอกราช อย่างไรก็ดี SWAPO มักถูกพรรคฝ่ายค้านกล่าวหาว่าฆ่าและกระทำทารุณกรรมต่อชาวนามิเบียหลายพันคนที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นสายลับของแอฟริกาใต้ ในปี 2533 (1990) SWAPO ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งทั่วไปครั้งแรกภายหลังจากที่นามิเบียได้รับเอกราช โดยนาย Nujoma ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีครั้งแรกในเดือนมีนาคม 2533 (1990) และพรรค SWAPO ได้รับคะแนนเสียงมากยิ่งขึ้นในการเลือกทั่วไปเมื่อปี 2537 (1994) และปี 2542 (1999) อย่างไรก็ดี สมาชิกพรรค SWAPO ที่ไม่เห็นด้วยกับการลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นสมัยที่ 3 ของนาย Nujoma ได้ แยกตัวออกมาตั้งพรรคการเมืองใหม่ชื่อว่า Congress for Democrat - CoD แต่ความนิยมยังคงสู้ SWAPO ไม่ได้ในปัจจุบัน |
หมวดของข่าว : ลงทุนต่างประเทศ , ลงทุนอาเซียน , ข้อมูลการลงทุน
สถานการณ์ทางการเมือง นาย Hifikepunye Pohamba จากพรรค SWAPO ได้รับชัยชนะในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งล่าสุดเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2547 และได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเป็นสมัยแรกต่อจากนาย Nujoma ซึ่งปัจจุบันนี้ยังคงดำรงตำแหน่งหัวหน้าพรรคและยังคงมีบทบาทสำคัญในพรรค SWAPO อยู่มาก ในการแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีเมื่อเดือนมีนาคม 2548 นาย Pohamba ได้เลือกบุคคลที่ดำรงตำแหน่งในคณะรัฐมนตรีในสมัยรัฐบาลของนาย Nujoma หลายคนให้เข้าร่วมคณะรัฐมนตรี ทั้งนี้ เพื่อลดความแตกแยกภายในพรรค SWAPO และได้ดำเนินนโยบายปราบปรามคอรัปชั่นอย่างเต็มที่เพื่อเรียกคะแนนนิยมให้แก่รัฐบาลของตน อย่างไรก็ดี ในขณะนี้ นาย Pohamba อายุ 70 ปีแล้ว จึงเป็นที่คาดการณ์กันว่า นาย Pohamba จะดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีเพียงสมัยเดียวเท่านั้น ในปัจจุบัน นักการเมืองที่มีบทบาทสำคัญในนามิเบียทั้งฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลมีอายุเกินกว่า 60 ปีแทบทั้งสิ้น ดังนั้น จึงพอคาดการณ์ได้ว่า ในอนาคตอันใกล้นี้ คงจะมีคนรุ่นใหม่จำนวนมากเข้ามาดำรงตำแหน่งทางการเมืองแทนคนรุ่นเก่าซึ่งส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนที่ผ่านประสบการณ์การเรียกร้องเอกราชจากแอฟริกาใต้มาแล้วทั้งสิ้น ความสัมพันธ์กับต่างประเทศ ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศนั้นมีความใกล้ชิดมากกับแอฟริกาใต้ แต่มีปัญหาทางด้านพรมแดนกับบอตสวานาและแองโกลา ความสัมพันธ์กับประเทศเพื่อนบ้าน
นามิเบียเป็นสมาชิกองค์การสหประชาชาติ กลุ่ม 77 กลุ่มประเทศไม่ฝักใฝ่ฝ่ายใด (Non-aligned Movement - NAM) องค์การเอกภาพแอฟริกา (Organization of African Unity - OAU) สหภาพศุลกากรแอฟริกาใต้ (Southern African Customs Union - SACU) ประชาคมด้านการพัฒนาแห่งภูมิภาคแอฟริกาตอนใต้ (Southern African Development Community - SADC) |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ประมุขและคณะรัฐบาล
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
Update กันยายน 2556 Chiefs of State and Cabinet Members of Foreign Governments ข้อมูล ณ วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2556
|
หมวดของข่าว : ลงทุนต่างประเทศ , ลงทุนอาเซียน , ข้อมูลการลงทุน
ผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ(GDP) |
16.93 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555) |
GDP รายบุคคล |
7,800 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555) |
อัตราการเจริญเติบโต GDP |
4.6% (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555) |
GDP แยกตามภาคการผลิต |
|
อัตราการว่างงาน |
51.2% (ค่าประมาณ พ.ศ. 2551) |
อัตราเงินเฟ้อ (Consumer Prices) |
5.8% (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555) |
ผลผลิตทางการเกษตร |
ธัญพืช ข้าวฟ่าง ถั่วลิสง องุ่น สัตว์มีชีวิต ปลา |
อุตสาหกรรม |
บรรจุเนื้อสัตว์ แปรรูปปลา ผลิตภัณฑ์นม เหมืองแร่ (เพชร ตะกั่ว สังกะสี ดีบุก เงิน ทังสะแตน ยูเนเนียม ทองแดง) |
อัตราการเกิบโตภาคอุตสาหกรรม |
6.5% (ค่าประมาณ พ.ศ.2553) |
หนี้สาธารณะ |
28.2% ของ GDP (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555) |
ดุลบัญชีเดินสะพัด |
49.3 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ค่าประมาณ พ.ศ.2555) |
มูลค่าการส่งออก |
4.657 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ f.o.b (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555) |
สินค้าส่งออก |
เพชร ทองแดง ทองคำ สังกะสี ตะกั่ว ยูเรเนียม ปศุสัตว์ แปรรูปปลา หนังแกะพันธ์คาราคัล |
ประเทศคู่ค้า (ส่งออก)ที่สำคัญ |
แอฟริกาใต้ 33.4% สหรัฐอเมริกา 4% (ค่าประมาณ พ.ศ. 2549) |
มูลค่าการนำเข้า |
5.762 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ (ค่าประมาณ พ.ศ. 2555) |
สินค้านำเข้า |
ผลิตภัณฑ์อาหาร ผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมและเชื้อเพลิงเครื่องจักรและอุปกรณ์เคมีภัณฑ์ |
ประเทศคู่ค้า (นำเข้า)ที่สำคัญ |
แอฟริกาใต้ 85.2% สหรัฐอเมริกา 14.8% (ค่าประมาณ พ.ศ.2550) |
สกุลเงิน |
ดอลลาร์นามิเบีย (Namibian Dollar - NAD) และเงินแรนของแอฟริกาใต้ (South African Rand- ZAR) |
สัญลักษณ์เงิน |
NAD; ZAR |
อัตราการแลกเปลี่ยนเงินตรา |
โยบายรัฐบาลด้านเศรษฐกิจ
1) นโยบายการลดความยากจนและการสร้างความหลากหลายทางเศรษฐกิจ เป้าหมายทาง เศรษฐกิจของนามิเบียนับตั้งแต่ที่ได้รับเอกราชคือการขยายการจ้างงาน การสร้างความหลากหลายทางเศรษฐกิจและลดการพึ่งพาเศรษฐกิจในภาคปฐมภูมิ (primary sector) โดยการกระตุ้นการลงทุนจากต่างชาติในอุตสาหกรรมภาคการผลิต เพื่อเพิ่มมูลค่าสินค้าให้แก่ทรัพยากรธรรมชาติของนามิเบียก่อนการส่งออก รวมถึงอุตสาหกรรมทางด้านการท่องเที่ยวและภาคการเงิน และตั้งแต่ปีที่ผ่านมารัฐบาลนามิเบียให้ความสำคัญกับโครงการลดความยากจนและขยายการมีส่วนร่วมทางธุรกิจให้แก่ "ผู้ด้อยโอกาส" ชาวนามิเบีย (previous disadvantaged Namibians) ที่มีจำนวนถึง 95%
2) นโยบายการสนับสนุนให้คนดำมีส่วนร่วมทางธุรกิจ (Black Economic Empowperment - BEE) โดยทั่วไปรัฐบาลมิได้เข้ามาแทรกแซงทางเศรษฐกิจและมิได้มีการกำหนดขอบเขตขั้นต่ำในการมีส่วนร่วมของคนผิวดำและการเป็นจ้าของในธุรกิจทั้งภาครัฐและเอกชนอย่างชัดเจน อย่างไรก็ดี ในภาคการประมงได้มีการกำหนดสัดส่วนการมีส่วนร่วมของชาวพื้นเมืองเพื่อเป็นเงื่อนไขไปสู่การได้รับใบอนุญาตทำการประมงในนามิเบียแล้ว และทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในโครงสร้างของการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจของชาวพื้นเมืองมากยิ่งขึ้น รัฐบาลมองว่า BEE มิได้เป็นเพียงแค่กลไกในการปรับโครงสร้างความไม่เท่าเทียมในการเป็นเจ้าของธุรกิจ แต่ยังเป็นยุทธศาสตร์ในการเปลี่ยนแปลงสังคมนามิเบียโดยการเพิ่มโอกาสทางเศรษฐกิจให้แก่คนพื้นเมืองด้วย อย่างไรก็ดี อาจเป็นเพราะความผิดพลาดในการบริหารหรือการฉ้อโกงทำให้โครงการนี้ประสบความล้มเหลว รัฐบาลนามิเบียถูกวิพากษ์ว่า โครงการนี้ในที่สุดแล้วคนผิวดำที่เป็นชนชั้นนำหรือมีความรู้จักคุ้นเคยกับรัฐบาลนามิเบียเท่านั้นจะเป็นผู้ที่ได้รับผลประโยชน์อย่างเต็มที่
3) นโยบายดึงดูดการลงทุนของนามิเบีย ตั้งแต่หลังได้รับเอกราช นามิเบียพยายามใช้นโยบายด้านภาษีและสิ่งจูงใจทางการเงินเพื่อดึงดูดนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคการส่งออกและการแปรรูปทรัพยากรธรรมชาติ หน่วยงานส่งเสริมการลงทุน "investment center" ได้ถูกก่อตั้งขึ้นเพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุนต่างชาติที่จะเข้าไปลงทุน อย่างไรก็ดี สิ่งจูงใจจากรัฐบาลออกมาในลักษณะทีละเล็กละน้อยมิได้ออกมาเป็น package จึงขาดความสอดคล้องกันในภาพรวม ในปลายทศวรรษที่ 1990 (ประมาณปีพ.ศ. 2530-2532) นามิเบียมีอัตราภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาและภาษีเงินได้นิติบุคคล 35% ซึ่งถือว่าไม่สูงมากนัก แต่ก็ไม่เป็นที่จูงใจสำหรับนักลงทุนต่างชาติอีกต่อไปเพราะประเทศเพื่อนบ้านในภูมิภาคเดียวกัน เช่น บอตสวานามีอัตราภาษีที่ต่ำกว่านามิเบียในปัจจุบันคือประมาณ 25%
หมวดของข่าว : ลงทุนต่างประเทศ , ลงทุนอาเซียน , ข้อมูลการลงทุน
ด้านการทูต รัฐบาลไทยได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตกับนามิเบียเมื่อวันที่ 6 พฤศจิกายน 2533 และไทยได้มอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพริทอเรีย มีเขตอาณาครอบคลุมนามิเบีย และแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำนามิเบียด้วยแล้ว คือ Dr. Gabriel T. Uahengo ส่วนนามิเบียได้มอบหมายให้สถานเอกอัครราชทูตนามิเบียประจำประเทศมาเลเซียมีเขตอาณาครอบคลุมประเทศไทย และเอกอัครราชทูตนามิเบียประจำประเทศไทยคนแรก คือนาย เนวิลล์ เมลวิน แกร์ตเซ (Mr. Neville Melvin Gertza) ได้เริ่มปฏิบัติหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 6 กรกฎาคม 2550 (ขณะนี้อยู่ระหว่างการรอเข้าเฝ้าฯ ถวายอักษรสาส์นตราตั้ง) อย่างไรก็ดี ในชั้นนี้ นามิเบียได้แต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์นามิเบียประจำประเทศไทยแล้วคือ นางนลินี ทวีสิน ด้านการเมือง ไทยสนับสนุนให้มีการปฏิบัติตามข้อมติคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติที่ 435 ปี 2521 (1978) ในการให้เอกราชแก่นามิเบียมาโดยตลอด ต่อมาสหประชาชาติได้จัดตั้งกองกำลังสังเกตการณ์และควบคุมเพื่อให้เป็นไปตามความตกลงสันติภาพและเพื่อเอกราช ซึ่งค่าใช้จ่ายประมาณ 81,324 ดอลลาร์สหรัฐ ได้รับการสนับสนุนจากประเทศสมาชิก UN รวมทั้งประเทศไทยและไทยเป็นประเทศหนึ่งใน 27 ประเทศที่ได้จัดส่งผู้ควบคุมการเลือกตั้งเพื่อช่วยควบคุมดูแลการเลือกตั้งสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญของนามิเบีย ที่มีขึ้นในเดือนพฤศจิกายน 2532 ตามคำร้องขอขององค์การสหประชาชาติ ซึ่งไทยได้ส่งเจ้าหน้าที่จำนวน 40 คนไปเข้าร่วม
การค้าระหว่างสองฝ่ายยังคงมีมูลค่าน้อยเมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในทวีปแอฟริกา โดยไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้าตลอดมา ดังจะเห็นได้จากข้อมูลการค้าในปี 2546 มีมูลค่าเพียง 108.4 ล้านบาท โดยไทยส่งออก 93.5 ล้านบาท นำเข้า 14.9 ล้านบาท และเพิ่มขึ้นเป็น 279.1 ล้านบาท ในปี 2549 สินค้าหลักที่ไทยส่งออกคือ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง เสื้อผ้าสำเร็จรูป อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป ข้าว ผลไม้กระป๋องและแปรรูป และสินค้าหลักที่นำเข้าคือ สินแร่โลหะ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำแช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและสำเร็จรูป ด้ายและเส้นใย เครื่องจักรและส่วนประกอบและเคมีภัณฑ์
ความตกลงที่สำคัญๆ กับไทย
การแลกเปลี่ยนการเยือน ฝ่ายไทย
ฝ่ายนามิเบีย
ฝ่ายไทย เอกอัครราชทูตประจำสาธารณรัฐนามิเบีย ถิ่นพำนัก ณ กรุงพริทอเรีย คือ นายโดมเดช บุนนาค (H.E. Mr. Domedej Bunnag)ที่อยู่ของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพริทอเรีย Royal Thai Embassy นอกจากนั้น มีการแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ไทยประจำนามิเบีย (Honorary Consul) คือ Dr. Gabriel Tuhafeni Uahengo -------------------------------------------------------------------------------------------------- ที่มา: กองแอฟริกา กรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา กระทรวงการต่างประเทศ
|
สถานที่ติดต่อทางการทูต
|
||
ที่อยู่
The Embassy of the Republic of Namibia 15-01, 15th Floor Tel: (603) 2164- 6520, 2162- 8950 Fax: (603) 2168 - 8790 E-mail: namhckl@streamyx.com Website: www.namibiahighcommission.com.my
|
หมวดของข่าว : ลงทุนต่างประเทศ , ลงทุนอาเซียน , ข้อมูลการลงทุน