ข่าวสารกลุ่มประเทศอาเซียน

ค้าชายแดนไทย-พม่าคึกคัก เอกชนเชื่อผลดีรับ "AEC"

15 สิงหาคม พ.ศ. 2557

การขยายตัวของเศรษฐกิจในพื้นที่บริเวณตะเข็บชายแดน โดยเฉพาะที่ระนองเริ่มมีความคึกคักมาก ผู้ประกอบการยันทันทีที่มีการเปิดเออีซีขึ้นจะทำให้บรรยากาศการค้าย่านพรมแดนไทย-พม่าขยายเพิ่มเท่าตัว

นายนิตย์ อุ่ยเต็กเค่ง ที่ปรึกษาคณะกรรมการหอการค้าจังหวัดระนอง กล่าวถึงสถานการณ์การค้าชายแดนไทย-พม่าในช่วงปี2556-2557 ว่าอยู่ในสภาวะที่ดี หลายกลุ่มสินค้ามีอัตราการขยายตัวสูงโดยเฉพาะสินค้ากลุ่มอาหาร สินค้าอุปโภค-บริโภค รวมถึงสินค้าหมวดก่อสร้างมีการขยายตัวเพิ่มขึ้นกว่า 30% โดยคาดว่าปี2558 ตัวเลขค้าชายแดนไทย-พม่าเฉพาะด้านที่จ.ระนอง-เกาะสองน่าจะเกิน 30,000 ล้านบาท จากปัจจุบันตัวเลขการค้านำเข้า-ส่งออกผ่านชายแดนระนอง-เกาะสองอยู่ที่ประมาณ 20,000 ล้านบาท

“การค้าไทย-พม่า อยู่ในสภาพดีมาอย่างต่อเนื่อง เป็นผลจากอัตราการบริโภคและแนวโน้มการบริโภคในพม่าสูงขึ้น และปัจจัยทางการเมืองของพม่าค่อนข้างนิ่ง ประกอบกับความสัมพันธ์ไทย-พม่าเป็นไปอย่างราบรื่น พม่าเป็นประเทศที่มีจุดอ่อนด้านฐานการผลิต จำเป็นต้องนำเข้าสินค้าเกือบทุกประเภทจากประเทศเพื่อนบ้าน โดยเฉพาะจากไทย"

ที่ผ่านมาสถานการณ์ของความสัมพันธ์ไทย-พม่าทั้งระดับท้องถิ่น ภูมิภาคและระดับชาติอยู่ในสภาวะที่ดี อีกทั้งพม่าไม่มีปัญหาการเมืองแต่ประการใดจึงทำให้การค้า ส่งออกไทย-พม่าจึงมีอัตราการขยายตัวดี ส่วนปี 2558 น่าจะมีอัตราการขยายตัวสูงกว่าเท่าตัวในทุกกลุ่มสินค้าทั้งอุปโภค-บริโภค รวมถึงสินค้าหมวดวัสดุก่อสร้าง และน้ำมัน และเป็นปีที่เข้าสู่ประชาคมอาเซียน(เออีซี) ทำให้การเดินทางเข้า-ออกง่ายขึ้น

หวั่นเพื่อนบ้านเบียดแย่งตลาด

นายนิตย์ กล่าวว่าสิ่งที่ผู้ประกอบการค้าชายแดน มีความเป็นห่วงขณะนี้และอาจจะทำลายบรรยากาศการค้าชายแดนคือ ความสัมพันธ์ของไทยกับพม่า ขณะนี้ไทยเองก็มีปัญหากับกัมพูชา ส่งผลต่อการค้าชายแดนอย่างเห็นได้ชัด หากไทยมีปัญหากับประเทศเพื่อนบ้าน เท่ากับเป็นการเปิดโอกาส ให้สินค้าจากคู่แข่ง โดยเฉพาะจีน,มาเลเซีย และสิงคโปร์เข้าไปแย่งตลาดได้

สำหรับพม่าปัจจุบันนี้ สินค้าของไทยมีส่วนแบ่งตลาดเพียง 30% ตลาดส่วนใหญ่กว่า 60% เป็นของจีน ดังนั้นหากความสัมพันธ์ของสองประเทศมีปัญหา การค้าชายแดนก็จะมีปัญหาตามมา ที่สำคัญไทยต้องปรับทัศนคติใหม่ว่าทุกประเทศจะต้องพึ่งพาไทย ไม่เป็นความจริงอีกต่อไปแล้ว

สำหรับสินค้าที่ส่งออกไปยังพม่า ประกอบด้วยน้ำมันเชื้อเพลิง ปัจจุบันมีมูลค่าการส่งออกสูงเกือบ 1,000 ล้านบาทต่อเดือน ส่วนที่เหลือเป็นสินค้าประเภทอุปโภคและบริษัทเป็นส่วนใหญ่

สินค้าอุปโภค-บริโภค-วัสดุก่อสร้าง ขยายตัวสูง

นายดำรง ขจรมาศบุษป์ ประธานชมรมผู้ค้าชายแดนไทย-พม่าด้านจ.ระนอง-เกาะสอง และประกอบการค้าส่งออกผลิตภัณฑ์ยาและเวชภัณฑ์รายใหญ่ เชื่อว่าการค้าชายแดนไทย-พม่า ด้านจ.ระนอง-เกาะสอง ปี 2558 ว่าน่าจะอยู่ในสภาวะที่ดี สินค้าในหลายกลุ่มสินค้ามีแนวโน้มขยายตัวสูงโดยเฉพาะสินค้าในกลุ่มอาหาร สินค้าประเภทอุปโภค-บริโภค รวมถึงสินค้าในหมวดก่อสร้าง

กลุ่มสินค้าที่มียอดการส่งออกไปยังพม่ามากที่สุดช่วงที่ผ่านมา ยังคงเป็นสินค้า อุปโภค-บริโภค ยารักษาโรค ผลิตภัณฑ์พลาสติก รวมถึงสินค้าวัสดุก่อสร้าง คาดว่าสินค้าในแต่ละกลุ่มจะสามารถขยายตลาดได้อีกมาก

ผู้ประกอบการระนองเตรียมข้ามฟากเข้าไปลงทุน

นายกฤษณะ เอี่ยมวงศ์นที อดีตประธานสภาอุตสาหกรรม จ.ระนอง กล่าวว่าพม่าถือเป็นประเทศบ้านใกล้เรือนเคียงที่กำลังพัฒนาประเทศ ส่งผลให้เกิดช่องว่างทางการตลาดมากมายทั้งในส่วนของสินค้าอุปโภค-บริโภค,สินค้าเกษตร,การค้า,การลงทุน,อุตสาหกรรม

“ที่ผ่านมาคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้นำผู้ประกอบการ เจ้าของกิจการข้ามฟากเข้าไปศึกษาถึงความเป็นไปได้ในการค้า การลงทุนในพม่า โดยเฉพาะในย่านตะนาวศรี แถบจ.มะริด ทวาย ซึ่งเป็นพื้นที่ที่รัฐบาลพม่ากำหนดให้เป็นย่านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมใหม่ทางตอนใต้ของพม่า ”

เหตุผลที่ทุกคนสนใจที่จะเข้าไปลงทุนในพม่า เป็นเพราะความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติที่มีอยู่เป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังมีอีกหลายประการที่นักธุรกิจยังวิตกกังวล อาทิความมั่นใจ ความแน่นอน การได้รับการดูแลจากรัฐบาลพม่า แต่คาดว่าปี 2558 น่าจะมีนักลงทุนจากไทยเดินทางเข้าไปลงทุนในกิจการบางประเภทในพม่า เนื่องจากต้องการใช้เป็นฐานวัตถุดิบ โดยเฉพาะกิจการแปรรูปสัตว์น้ำ

 

 

หมวดของข่าว : ลงทุนต่างประเทศ , ลงทุนอาเซียน , ข้อมูลการลงทุน