ข่าวสารกลุ่มประเทศอาเซียน

“ซัสโก้” ศึกษาทำปั๊ม Co-Brand ในเขมร น้ำมันร่วงไม่กระทบยอดขาย 2.7 หมื่นล้าน

16 ธันวาคม พ.ศ. 2557

“ซัสโก้” คงเป้ายอดขายปีหน้า 2.7 หมื่นล้านบาท แม้ว่าราคาน้ำมันปรับลดลงแต่ปริมาณการขายเพิ่มขึ้น วางงบลงทุน 200 ล้านบาทปรับปรุงและขยายปั๊มเพิ่มขึ้น เผยอยู่ระหว่างการศึกษาผุดปั๊ม Co-Brand ในประเทศเพื่อนบ้าน หลังทำตลาดส่งออกน้ำมันมานาน
       
       นายชัยฤทธิ์ สิมะโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ซัสโก้ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทยังคงเป้าหมายยอดขายในปีหน้าที่ 2.7 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 8-10% จากปีนี้ที่มียอดขาย 2.5 หมื่นล้านบาท แม้ว่าราคาน้ำมันตลาดโลกจะปรับตัวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 66 เหรียญสหรัฐ/บาร์เรลแต่มีปริมาณการขายน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น โดยคาดว่าราคาน้ำมันในปีหน้าจะต่ำระดับนี้ต่อเนื่องไปตลอดทั้งปี
       
       จากราคาน้ำมันโลกที่ปรับตัวลดลงแรง ทำให้ยอดขายน้ำมันเบนซินปรับเพิ่มขึ้น โดยน้ำมันเบนซิน 95 ราคาขายอยู่ที่ 40.26 บาท/ลิตร ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของการใช้น้ำมันจากเดิมที่ใช้พลังงานทดแทน คือ แก๊สโซฮอล์ หันมาใช้เบนซิน 95 และแก๊สโซฮอล์ 95 เป็นหลัก
       
       นายชัยฤทธิ์กล่าวต่อไปว่า ในปีหน้าบริษัทตั้งเป้างบลงทุนไว้ 200 ล้านบาทในการปรับปรุงปั๊มน้ำมันซัสโก้ให้ครบทั้ง 100 ปั๊มเพื่อให้มีภาพลักษณ์ที่สดใสขึ้น หลังจากที่ได้มีการเปลี่ยนแบรนด์ปั๊มปิโตรนาสมาเป็นซัสโก้ทั้ง 96 ปั๊มเป็นที่เรียบร้อยแล้ว รวมทั้งจะมีการขยายจำนวนปั๊มน้ำมันใหม่เพิ่มขึ้นไม่เกิน 10 ปั๊ม ขณะที่ปั๊มเอ็นจีวีและปั๊มแก๊สแอลพีจีจะไม่ขยายการลงทุนเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่มีปั๊มเอ็นจีวี 12 ปั๊ม และปั๊มแอลพีจี 8 ปั๊ม เนื่องจาก ปตท.ยังไม่มีแผนจะขยายปั๊มเอ็นจีวีเพิ่มเติม
       
   

 

 

    “ในปีหน้ายอดขายบริษัทฯ โตขึ้นไม่มาก เนื่องจากราคาน้ำมันปรับลดลง แต่ปริมาณการขายน้ำมันเพิ่มสูงขึ้น โดยปีหน้าวางเป้าหมายจะเพิ่มปั๊มน้ำมันใหม่ไม่เกิน 10 ปั๊ม แต่จะเน้นปรับปรุงปั๊มน้ำมันซัสโก้อีก 100 ปั๊ม หลังจากเปลี่ยนแบรนด์ปิโตรนาสเป็นซัสโก้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว”
       
       จากข้อจำกัดเรื่องถังใต้ดินในปั๊มน้ำมัน บริษัทฯ เห็นว่ารัฐควรยกเลิกการจำหน่ายน้ำมันเบนซิน 91 โดยผู้ใช้รถสามารถใช้อี 20 แทนได้ และยังลดภาระให้ผู้ประกอบการ ซึ่งในปีหน้าบริษัทมีแผนจะขยายการจำหน่าย อี85 เพิ่มขึ้นอีก 10-20 ปั๊มจากปัจจุบันจำหน่ายอยู่เพียง 40 ปั๊ม และอี 20 จำหน่ายอยู่ 10 ปั๊มก็จะเพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน เนื่องจากรถรุ่นใหม่สามารถเติมน้ำมันอี 85 ได้
       
       รวมทั้งมีการขยายร้านสะดวกซื้อเพิ่มขึ้น โดยจะพิจารณาทำเลที่ตั้งเป็นสำคัญในการเลือกทำเป็นแฟมิลี มาร์ท หรือ @ Mart คาดว่าปีหน้าจะเพิ่มร้านสะดวกซื้ออีก 5-10 แห่ง โดยยอมรับว่ายอดขายของบริษัทฯ ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจน้ำมัน ส่วนธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันสร้างรายได้น้อย แต่เมื่อเทียบมาร์จิ้นแล้วดีกว่ามาก จึงเป็นเหตุผลสำคัญที่บริษัทยังให้ความสำคัญต่อธุรกิจที่ไม่ใช่น้ำมันอยู่
       
       นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีการส่งออกน้ำมันไปยังประเทศเพื่อนบ้านทั้งลาว กัมพูชา และพม่า คิดเป็น 30% ของยอดขาย โดยปีหน้าคาดว่าการส่งออกน้ำมันจะโตขึ้น 8-10% ตามการโตของการใช้น้ำมันในประเทศดังกล่าว ซึ่งขณะนี้บริษัทฯ อยู่ระหว่างการศึกษาความเป็นไปได้ในการทำปั๊มในประเทศกัมพูชา โดยอาจจะอยู่ในรูป Co-Brand กับลูกค้าที่ปัจจุบันซัสโก้ส่งออกน้ำมันไปจำหน่ายให้อยู่แล้ว และโดยลูกค้าดังกล่าวมีแบรนด์ปั๊มน้ำมันเป็นของตนเองอยู่แต่อาจจะนำแบรนด์ซัสโก้ไปติดร่วมด้วย
       
       ส่วนแผนการซื้อหุ้นบางจาก 27% จาก ปตท.นั้น คงต้องรอ ปตท.พิจารณาตัดสินใจว่าจะขายหุ้นดังกล่าวให้ใคร แต่ยืนยันว่าการตัดสินใจเสนอซื้อหุ้นบางจากครั้งนี้เนื่องจากซัสโก้อยู่ในธุรกิจน้ำมันมองเห็นโอกาส Synergy ร่วมกันได้ โดยที่ผ่านมาซัสโก้ซื้อน้ำมันส่วนใหญ่จากโรงกลั่นไทยออยล์
       
       ปัจจุบันซัสโก้มีปั๊มน้ำมันจำนวน 235 แห่ง ตั้งเป้าเพิ่มเป็น 250 แห่งใน 2-3 ปีข้างหน้าทำให้ยอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 3 หมื่นล้านบาท 

 

Cr:http://www.manager.co.th/iBizChannel/ViewNews.aspx?NewsID=9570000141667