ข่าวสารกลุ่มประเทศอาเซียน

ICHI ลงทุนในกิจการร่วมค้าในอินโดนีเซียกับ "PT AtriPasifik " หวังผลิต-จำหน่าย"อิชิตัน"ในอินโดนีเซีย

5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2558

 สำนักข่าวหุ้นอินไซด์(  26 สิงหาคม  2557)--นางอิง ภาสกรนาที กรรมการ บมจ.อิชิตัน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ICHI เปิดเผยว่า  ตามที่คณะกรรมการบริษัท อิชิตัน กรุ๊ป จ ากัด (มหาชน) (“บริษัท”) ได้มีมติในการประชุมครั้งที่ 4/2557 เมื่อวันที่ 26สิงหาคม 2557 ซึ่ง ได้อนุมัติในเรื่องสำคัญ โดยอนุมัติการเข้าลงทุนในกิจการร่วมค้าที่จัดตั้งขึ้นใหม่ในประเทศอินโดนีเซีย (“JV”) ร่วมกับบริษัท PT AtriPasifik (“AP”) ซึ่งเป็ นบริษัทที่จดทะเบียนอยู่ในประเทศอินโดนีเซีย โดยบริษัทและ AP ถือหุ้นในสัดส่วนรายละร้ อยละ 50 คิดเป็นมูลค่าร่วมทุนส่วนทุนจดทะเบียนของบริษัทจ านวน 200,000 ล้านรูเปี ยอินโดนีเซีย(ประมาณ 592.0 ล้านบาท) รวมมูลค่าร่วมทุนส่วนทุนจดทะเบียนทั้งสิ้นจำนวน 400,000 ล้านรูเปี ยอินโดนีเซีย (ประมาณ 1,184.0 ล้านบาท)
    วัตถุประสงค์การร่วมทุน: ผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชาพร้อมดื่มแบรนด์ “อิชิตัน” ในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่งบริษัทยินยอมให้ JV ใช้เครื่องหมายการค้าและสูตรการผลิตของทางบริษัท
    สรุปรายละเอียดรายการที่ได้มาซึ่งสินทรัพย์ที่ได้รับอนุมัติจากคณะกรรมการบริษัทในรอบระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมา(วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2557– 26 สิงหาคม 2557) ดังนี้ 1.ซื้อ สิทธิ์ในเครื่องหมายการค้า “ไบเล่” พร้อมสูตรการผลิตจากบริษัท ซันนี่ เฮิร์บ อินเตอร์เนชนั่ แนล เบฟเวอเรจจ ากัด และเข้าลงทุนในที่ดิน อาคาร ระบบติดตั้ง ภายในเครื่องจักรและอุปกรณ์ มูลค่าเงินลงทุน 1,780 ล้านบาท , 2.ร่วมลงทุนในกิจการร่วมค้าร่วมกับ AP โดยบริษัท และ APถือหุ้นในสัดส่วนรายละร้อยละ 50 มูลค่าเงินลงทุน 1,010.1ล้านบาท  และ 3. ลงทุนในระบบติดตั้งภายใน เครื่องจักรและอุปกรณ์เพื่อ ขยายโครงการเฟส  2  มูลค่าเงินลงทุน 750  ล้านบาท
    ทั้งนี้ บริษัทร่วมทุนตาม Joint Venture Agreement จดทะเบียนและจัดตั้งในประเทศอินโดนีเซีย ซึ่ง จะดำเนินธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายเครื่องดื่มชาพร้อมดื่มในประเทศอินโดนีเซยี ซึ่ง บริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 50 รวมมูลค่าโครงการ JV ทั้งสิ้น682,500 ล้านรูเปี ยอินโดนีเซีย (ประมาณ 2,020.2 ล้านบาท)
    สำหรับ มูลค่ารวมของสิ่งตอบแทนและเกณฑ์ที่ใช้กำหนดมูลค่าสิ่งตอบแทน คือ เงินลงทุนส่วนทุนจดทะเบียนจำนวน 200,000 ล้านรูเปี ยอินโดนีเซีย (ประมาณ 592.0 ล้านบาท) ซึ่งสะท้อนสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทที่ร้อยละ 50 โดยบริษัทจะช าระจากกระแสเงินสดจากการดำเนินงานของบริษัท รวมถึงเงินให้กู้ยืมแก่ JV ในอนาคตจำนวน 141,250 ล้านรูเปี ยอินโดนีเซีย (ประมาณ 418.1 ล้านบาท) ซึ่งเป็ นไปตามสัดส่วนการถือหุ้นของบริษัทที่ร้อยละ 50 โดยยังไม่ระบุแหล่งเงินทุนที่แน่นอนซึ่งทางบริษัทจะแจ้งให้นักลงทุนและผู้ถือหุ้นทราบเมื่อมีความแน่ชัดอีกครั้ง

CR:http://www.hooninside.com/news-detail.php?id=367133

CR:http://www.nationmultimedia.com/home/admin/specials/nationphoto/photo/SPkMHsP.jpg

( ธนัสสรณ์ เปี่ยมสมบูรณ์ เรียบเรียง ;โทร 02-664-4451-2 อีเมล์: reporter@hooninside.com  )

  ที่มา: หุ้นอินไซด์